ผลสำรวจการใช้จ่ายสงกรานต์ปี 65 ไม่คึกคัก เงินสะพัดแค่ 1.06 แสนล้านบาท ลด 5.4% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เหตุของแพง น้ำมันขึ้น โควิด-19 ระบาด จึงต้องประหยัดค่าใช้จ่าย เผยบรรยากาศปีนี้คนยังมองไม่สนุก เน้นท่องเที่ยวในจังหวัดตัวเอง บางส่วนอยู่บ้าน คาดเศรษฐกิจปีนี้ยังอยู่ในกรอบ 2.5-4% แนะรัฐผ่อนคลายเข้าประเทศ กระตุ้นท่องเที่ยว ต่อคนละครึ่ง
นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ เปิดเผยถึงผลสำรวจพฤติกรรมการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2565 ว่า บรรยากาศสงกรานต์ปี 2565 ค่อนข้างเงียบเหงา ไม่คึกคัก โดยคาดว่าจะมีเงินสะพัดมูลค่า 106,772.59 ล้านบาท ลดลง 5.4% ต่ำสุดในรอบ 10 ปี เพราะคนลดการใช้จ่ายลง เนื่องจากราคาสินค้าและค่าบริการต่างๆ แพงขึ้น จึงต้องการประหยัด บางส่วนมีหนี้เพิ่มขึ้น รายได้ลดลง และยังได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้น ความกังวลในเรื่องการแพร่ระบาดของโควิด-19
สำหรับบรรยากาศสงกรานต์ปีนี้ คนมองว่า ไม่สนุกสูงถึง 46.2% สนุกสนานเหมือนเดิม 30.2% สนุกสนานน้อยกว่า 12.7% และสนุกสนานมากกว่า 11% โดยการใช้จ่ายช่วงสงกรานต์ปีนี้ คนส่วนใหญ่จะเน้นการทำบุญมากกว่าการซื้อของสังสรรค์ ส่วนการท่องเที่ยว จะเน้นเที่ยวและทำกิจกรรมในจังหวัดที่ตนเองอยู่ บางส่วนจะเดินทางท่องเที่ยวในประเทศ ไปภาคกลางมากที่สุด รองลงมาคือ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคใต้ กรุงเทพฯ และปริมณฑล แต่บางส่วนไม่มีแผนไปเที่ยว และพักผ่อนอยู่บ้าน โดยปีนี้ยังคงไม่มีการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศ
ทั้งนี้ ปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวช่วงสงกรานต์ปีนี้ ส่วนใหญ่มีความกังวลสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงมีการระบาด และน้ำมันแพง
อย่างไรก็ตาม คนเริ่มมีความกังวลต่อโควิด-19 น้อยลง และเห็นว่าอยู่ร่วมกับโควิด-19 ได้มากขึ้น โดยเริ่มมีการปรับตัว ทั้งการออกไปรับประทานข้าวนอกบ้าน ทำงาน พบเจอผู้ใหญ่ และไปซื้อของในห้าง โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และเขตเมือง สถานที่ท่องเที่ยว เริ่มเต็มไปด้วยผู้คน
นายธนวรรธน์กล่าวว่า อัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้ มองว่ายังจะอยู่ในกรอบ 2.5-4% หรือขยายตัวได้ 3.5% แม้หลายหน่วยงานจะมีการประเมินว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำก็ตาม โดยมีปัจจัยบวกจากประชาชนเริ่มอยู่กับโอมิครอนได้ ส่งออกไทยขยายตัว 4-5% สงครามค่อยๆ คลี่คลาย แม้จะมีการสู้รบอยู่บ้าง โดยคาดว่าตั้งแต่ไตรมาส 2 จะดีขึ้น และหากรัฐบาลผ่อนคลายการเข้าประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยว และมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่น ขยายโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เริ่ม มิ.ย. 2565 จะทำให้มีเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 45,000 ล้านบาท ก็จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากขึ้น
ส่วนปัจจัยที่จะมีผลกระทบ ยังคงเป็นราคาน้ำมัน หากสูงขึ้นก็จะมีผล แต่ถ้าอยู่ในระดับ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เชื่อว่าจะไม่กระทบต่อเศรษฐกิจไทย