ผู้จัดการรายวัน 360 - เปิดมิติใหม่ของการคอลลาบอเรต เมื่อร้านอาหารเกาหลีทัคคาลบี้ ผนึกร้านคัดสรรในเซเว่นอีเลฟเว่น เปิดเตาปรุงอาหารเกาหลีแบบสดๆ เสิร์ฟในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น ประเดิมรวดเดียว 555 สาขา ตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน ตั้งเป้าสิ้นปีนี้จะเพิ่มเป็น 1,200 สาขา
นางสาวปรียาวรรณ ตันตสุรฤกษ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดร้านอาหารเกาหลีในภาพรวมยังมีการเติบโตและยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก ด้วยมูลค่าตลาดรวมที่มากถึง 2,000 ล้านบาท เมื่อช่วงปี 2563 และเติบโตเฉลี่ย 4-5% ทุกปี เนื่องจากกระแสเคป็ปปยังมีอยู่ต่อเนื่อง การยอมรับของคนไทยมากขึ้น รสชาติอาหารที่มีการปรับให้เหมาะกับคนไทยมากขึ้น ดังจะได้เห็นจากการที่มีเชนร้านอาหารเกาหลีเปิดมากขึ้นทั้งแบรนด์ที่มาจากการพัฒนาของคนไทย กับแบรนด์ที่มาจากเกาหลีโดยตรง จึงทำให้การแข่งขันค่อนข้างมากขึ้นกว่าในอดีต
“เราทำแบรนด์นี้ขึ้นมาเอง พัฒนามาต่อเนื่องรวมเกือบ 10 ปี ถือเป็นสตาร์ทอัพของคนไทยก็ว่าได้ จนกระทั่งบริษัทซีพีเอฟได้เข้ามาซื้อหุ้นประมาณ 40% เมื่อช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้แบรนด์ทัคคาลบี้ (Dak Galbi) ของเรามีความแข็งแกร่งและเติบโตมากขึ้นกว่าเดิม จนปัจจุบันนี้ซีพีเอฟถือหุ้นเพิ่มเป็น 60% ตามสัญญาที่ได้ทำกันไว้ ขณะที่เราที่เป็นผู้ก่อตั้งถือหุ้นเดิมยังคงเป็นผู้บริหารหลัก
ส่วนแผนปี 2565 นี้ตั้งงบลงทุนไว้ที่ 100 ล้านบาท จะขยายสาขาร้านในเครือทั้งหมดรวมกว่า 12 สาขา ซึ่งเป็นการลงทุนเองทั้งหมด แบ่งเป็นร้านทัคคาลบี้ 2 สาขา ในเดอะมอลล์กับเซ็นทรัล ในไตรมาส 3 และ 4 ส่วนอีกร้านคือ คาลบี้เอ็กซ์ที่เป็นโมเดลสตรีทฟ้ด จะเปิดมากถึง 10 สาขา ขณะที่ร้านวอกซ์สเตชั่นจะเน้นไปเปิดในต่างประเทศ จากปัจจุบันมีร้าน ทัคคาลบี้ 15 สาขา ซึ่งมียอดใช้จ่ายต่อบิลของลูกค้าเฉลี่ย 1,000 บาทต่อบิลต่อโต๊ะและร้านคาลบี้เอ็กซ์ 3 สาขาที่เปิดบริการแล้ว
สำหรับผลประกอบการของบริษัท เมื่อปี 2564 มีประมาณ 200 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้รวมเพิ่มเป็น 500 ล้านบาท
ล่าสุดได้จับมือร่วมกันกับทางซีพีออลล์ ผู้บริหารร้านเซเว่นอีเลฟเว่นและร้านคัดสรร เพื่อขยายธุรกิจครั้งสำคัญหรือการทำคอลลาบอเรตร่วมกันเป็นครั้งแรกในนาม คัดสรร X ทัคคาลบี้ ( KUDSAN X DAK GALBI) โดยเป็นรุูปแบบของการเปิดครัวร้านอาหารเกาหลี ทัคคาลบี้ในพื้นที่ร้านคัดสรรที่อยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่น โดยทางบริษัทฯ เป็นเสมือนซัปพลายเออร์รับผิดชอบในการจัดส่งวัตถุดิบต่างๆ และซอสให้กับร้านคัดสรร ส่วนการลงทุนและพนักงานเป็นของร้านคัดสรร และเร็วๆ นี้จะเริ่มมีการนำซอสบรรจุขวดเข้าไปวางจำหน่ายในเซเว่นอีเลฟเว่นด้วย
นางสาวกนกอร ทิพยพรกุล ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานคัดสรรและเบลลินี่ พรีเมี่ยม คาเฟ่ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความร่วมมือดังกล่าวนี้ ในเฟสแรกได้เปิดบริการเคาน์เตอร์ปรุงสุกอาหารเกาหลีทัคคาลบี้ ในพื้นที่ของร้านคัดสรรซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่บนชั้นสองของร้านเซเว่นอีเลฟเว่น พร้อมกันวันที่ 4 เมษายน จำนวน 555 สาขาที่มีร้านคัดสรร โดยเฉลี่ยจะมีที่นั่งประมาณ 4 โต๊ะ และมีอาหารปรุงสุกสดๆ ช่วงแรกนี้ 4 เมนู คือ ไก่กรอบทัคคัลยอง ต็อกบกกี ปีกไก่กรอบทัคคัลยอง ข้าวไก่กรอบบอมบ์บอมบ์ ราคาเฉลี่ย 89-129 บาท
ขณะที่เฟสที่สองคาดว่าจะสามารถขยายบริการในร้านคัดสรรได้เพิ่มให้ครบเป็น 1,200 สาขา และมีเมนูเพิ่มอีก 4 เมนุู ภายในสิ้นปี 2565 นี้ ซึ่งสาขาเปิดบริการแล้ว เช่น สาขาสีลมซอย 19 นอกจากนั้นยังมีบริการเซเว่นดีลิเวอรีด้วย
ปัจจุบันร้านคัดสรรมีประมาณ 5,000 สาขาเมื่อสิ้นปีที่แล้ว และปีนี้คาดว่าจะมีการขยายเพิ่มอีกประมาณ 1,700 สาขา ซึ่งเป็นการลงทุนเองทั้งหมด และตั้งอยู่ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทั้งหมด และจะทำให้มีบริการครบทั้งสามประเภทกระจายในแต่ละสาขา ซึ่งประกอบด้วย ชงสด (เครื่องดื่ม), อบสด (เบเกอรี) และปรุงสด (อาหารทัคคาลบี้) สัดส่วนร้านคัดสรรจะกระจายอยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 50% และต่างจังหวัด 50%
“โครงการนี้เกิดขึ้นเนื่องจากเรามองเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องการรับประทานอาหารที่มีการปรุงสุกสดใหม่ร้อนๆ จากเตา ยิ่งในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิดยิ่งทำให้มีความต้องการรับประทานอาหารที่ปรุงสุกสดใหม่มากขึ้ินด้วย เพราะต้องการเรื่องความปลอดภัยและสุขอนามัยมากขึ้น ปีที่แล้วเราก็เริ่มทำตลาดพิซซาที่ปรุงสุกใหม่ๆ ในร้าน ราคา 79 บาทต่อชิ้น ก็ได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค” นางสาวกนกอรกล่าว
สำหรับยอดขายของร้านคัดสรรเมื่อสิ้นปีที่แล้ว 2564 มีประมาณ 2,800 ล้านบาท แบ่งสัดส่วนรายได้เป็น กลุ่มอบสด 60%, กลุ่มชงสด 30% และกลุ่มปรุงสด 10% อย่างไรก็ตาม คาดว่าปีนี้กลุ่มปรุงสดจะมีสัดส่วนเพิ่มเป็น 20% ตามรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น