xs
xsm
sm
md
lg

กรมราง เร่งแก้จุดตัดรถไฟ สำรวจ จ. สมุทรสาคร เจอทางลักผ่าน 52 จุด เล็งปิดจุดเสี่ยงอุบัติเหตุ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมรางเร่งทำแผนแม่บทแก้ปัญหาจุดตัด สำรวจ จ.สมุทรสาคร มีทางลักผ่านมากถึง 52 จุด จากจุดตัดทั้งหมด71 แห่ง ยันต้องปิดป้องกันอุบัติเหตุ หากจำเป็นใช้สัญจร ต้องขออนุญาตรฟท. และติดตั้งอุปกรณ์เครื่องกั้น

วันที่ 25 มี.ค. 65 กรมการขนส่งทางราง (ขร.) ร่วมกับ กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน (กปถ.) จัดการประชุมกลุ่มย่อย ครั้งที่ 5 (จังหวัดสมุทรสาคร) โครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟทั่วประเทศ

นายพิเชฐ คุณาธรรมรักษ์ รองอธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) เปิดเผยว่า โครงการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ มีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดในภาพรวมทั้งระบบ โดยมีขอบเขตของงานประกอบด้วย การจัดทำฐานข้อมูลจุดตัด และจัดทำเป็นแผนแม่บทและแผนปฏิบัติการแก้ไขอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ ซึ่งแบ่งเป็นระยะเร่งด่วน ระยะกลาง และระยะยาว ให้สอดคล้องกับแผนพัฒนารถไฟทางคู่ และโครงการรถไฟความเร็วสูง พร้อมทั้งจัดทำคู่มือมาตรฐานจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์จุดตัดทางถนนและทางรถไฟให้เป็นมาตรฐานเดียวกันทั้งประเทศ ตลอดจนพัฒนาคู่มือในการสอบสวนสาเหตุของอุบัติเหตุเชิงลึกบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ

ซึ่งการประชุมกลุ่มย่อยครั้งที่ 5 เพื่อรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่ภาคกลาง โดยได้รับฟังความคิดเห็นของประชาชนในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครและจังหวัดใกล้เคียงคือจังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อนำมาประกอบการจัดทำแผนแก้ไขปัญหาจุดตัดให้สอดคล้องกับพื้นที่

โดยจังหวัดสมุทรสาคร มีทางรถไฟผ่านพื้นที่เพียงอำเภอเมืองสมุทรสาคร อำเภอเดียว มีจุดตัดทางถนนและทางรถไฟรวม 75 จุด แบ่งเป็น สายวงเวียนใหญ่ – มหาชัย จำนวน 35 จุด และสายบ้านแหลม – แม่กลอง จำนวน 40 จุด โดยปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว 4 จุด คงเหลือ 71 จุด ประกอบด้วย จุดตัดต่างระดับ 3 จุด และจุดตัดเสมอระดับ 68 จุด ในจำนวนนี้มีเครื่องกั้นแล้วจำนวน 15 จุด มีป้ายจราจรแจ้งเตือน 1 จุด และมีทางลักผ่านมากถึง 52 จุด หรือคิดเป็นร้อยละ 69.33 ของจุดตัดทางรถไฟในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร

ส่วนจังหวัดสมุทรสงคราม มีจุดตัดทางถนนและทางรถไฟรวม 11 จุดอยู่ในสายบ้านแหลม – แม่กลอง โดยปัจจุบันยกเลิกไปแล้ว 2 จุด คงเหลือจุดตัดที่เป็นเสมอระดับทั้ง 9 จุด ในจำนวนนี้มีเครื่องกั้นแล้วจำนวน 8 จุด และมีทางลักผ่าน 1 จุด

โดยในอนาคต จะดำเนินการปรับปรุงทางกายภาพบริเวณจุดตัดหรือยกเลิกจุดตัดที่ไม่จำเป็นและนำไปรวมใช้จุดตัดที่อยู่ใกล้เคียงแทน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

โดยจากสถิติอุบัติเหตุทางรถไฟที่ผ่านมา พบว่า มักเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ และ จะเป็นอุบัติเหตที่ค่อนข้างรุนแรง มีผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยจากการสำรวจจุดตัดทางถนนและทางรถไฟทั่วประเทศจำนวน 2,971 แห่ง ในปี 2565 พบว่า มีจุดตัดที่ถูกปิดไปแล้วประมาณ 217 แห่ง เหลือเปิดใช้งานอยู่จริงราว 2,754 แห่ง ซึ่งจำนวนจุดตัดทั่วประเทศ ที่มีใน ปัจจุบัน ยังถือว่ามากกว่าเมื่อ ปี พ.ศ. 2553 ซึ่งมีจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ 2,517 แห่ง

ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมา จำนวนจุดตัดที่เกิดขึ้นใหม่ มีมากกว่าจุดตัดที่ถูกปิดไป ดังนั้นสิ่งสำคัญนอกจากพยายามปิดจุดตัดที่เป็นทางลักผ่านแล้ว จะต้องป้องกันไม่ให้มีจุดตัดใหม่เกิดขึ้นด้วย จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องไม่เปิดจุดตัดเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจุดตัดทางลักผ่าน ที่หน่วยงานหรือประชาชนในพื้นที่ก่อสร้างกันเองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.)

ซึ่งจุดตัดที่เป็นทางลักผ่าน จะไม่มีเครื่องกั้นถนนและไฟฟ้าส่องสว่าง ช่วงเวลากลางคืนถนนจะมืดสนิท ผู้ขับขี่มองไม่เห็นรถไฟที่กำลังเข้ามาใกล้ เป็นสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุนอกจากนี้ จะต้องขอความร่วมมือหน่วยงานท้องถิ่นที่เกี่ยวข้อง ช่วยกันตรวจตราทางรถไฟในพื้นที่รับผิดชอบของตน ไม่ให้เกิดจุดตัดทางลักผ่านเพิ่มมากขึ้น

จุดตัดทางลักผ่านเดิมที่ไม่ปลอดภัยจำเป็นต้องปิด จุดตัดทางลักผ่านใดที่มีความจำเป็นต่อการสัญจร ให้หน่วยงานส่วนท้องถิ่นหรือองค์การบริหารส่วนตำบลหรือเจ้าของถนนตัดผ่านทางรถไฟในพื้นที่รับผิดชอบส่งเรื่องผ่าน การรถไฟฯ และกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาอนุญาตให้เป็นทางผ่านที่ถูกต้อง และติดตั้งอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยต่อไป












กำลังโหลดความคิดเห็น