“พาณิชย์” ชี้เป้าสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านมีโอกาสส่งออกฟิลิปปินส์

“ทูตพาณิชย์ฟิลิปปินส์” เผยสินค้าผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านมีโอกาสส่งออกขายผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ ชี้ผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลง ผลิตภัณฑ์สารฟอกขาว เป็นสินค้าที่มีความต้องการเพิ่ม ส่วนช่องทางการจำหน่าย แนะขายผ่านซูเปอร์มาร์เกต หรือไฮเปอร์มาร์เกต แต่อย่าลืมช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางเสริม

น.ส.จันทนา โชติมุณี ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ กรุงมะนิลา ฟิลิปปินส์ เปิดเผยถึงการติดตามโอกาสทางการค้าของไทยในตลาดฟิลิปปินส์ ตามนโยบายที่ได้รับจากนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และนายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) ว่า สำนักงานฯ ได้ติดตามสถานการณ์ตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ พบว่ามีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการเติบโตทางเศรษฐกิจ จำนวนบ้านเรือนที่อยู่อาศัยที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น และแม้จะเกิดสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง แต่ความต้องการผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านก็ยังเติบโต แม้จะชะลอตัวลงบ้าง เพราะคนยังให้ความสำคัญต่อการดูแลสุขอนามัย การดูแลความสะอาดในบ้านและการฆ่าเชื้อโรคในบ้าน

ทั้งนี้ ยังมีข้อมูลจาก Euromonitor ที่แสดงให้เห็นถึงการเติบโตของตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ โดยในปี 2560 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์มีมูลค่าอยู่ที่ 82,591.1 ล้านเปโซ และปี 2564 เพิ่มขึ้นเป็น 110,719.1 ล้านเปโซ เพิ่มขึ้น 1.03% โดยผลิตภัณฑ์ที่มียอดจำหน่ายสูงสุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์ซักรีด รองลงมาคือ ผลิตภัณฑ์ล้างจาน ผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงภายในบ้าน ผลิตภัณฑ์ฟอกขาว ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดห้องน้ำ ผลิตภัณฑ์ปรับอากาศ ผลิตภัณฑ์ขัดเงา และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดพื้นผิว

ส่วนช่องทางการจำหน่าย ช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ช่องทางอีคอมเมิร์ซเริ่มกลายเป็นช่องทางจัดจำหน่ายที่สำคัญสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ และเมื่อเกิดการแพร่ระบาด ก็ยิ่งกลายเป็นปัจจัยเร่งให้ช่องทางอีคอมเมิร์ซขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ได้หันมาซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์มากขึ้น และผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก ได้ให้ความสนใจและเพิ่มการลงทุนในช่องทางจัดจำหน่ายทางออนไลน์มากขึ้น โดยคาดการณ์ว่ายอดจำหน่ายตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจะยังคงขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดจะคลี่คลายหรือยุติลงแล้วก็ตาม

น.ส.จันทนากล่าวว่า แนวโน้มและทิศทางตลาดผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ Euromonitor คาดการณ์ว่าในปี 2565 ยอดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์จะเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของเมืองและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้าที่มีสารต้านแบคทีเรีย คาดว่าจะยังคงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้บริโภค เนื่องจากผู้บริโภคยังคงมีความกังวลต่อสุขอนามัย รวมทั้งคาดการณ์ว่าความต้องการผลิตภัณฑ์กำจัดแมลงภายในบ้านจะยังคงเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากสภาพภูมิอากาศของฟิลิปปินส์จะมีอากาศร้อนชื้นมากขึ้น และจะมีปรากฏการณ์ลานีญาเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการเพิ่มจำนวนประชากรของแมลงอย่างรวดเร็ว รวมถึงผลิตภัณฑ์สารฟอกขาว จะยังคงเป็นผลิตภัณฑ์หลักในครัวเรือน เนื่องจากชาวฟิลิปปินส์ จำนวนมากจะยังคงมีการป้องกันและรักษาสุขอนามัยที่มากขึ้นในสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัย โดยคาดว่าสารฟอกขาวจะยังคงได้รับความนิยมในฟิลิปปินส์มากกว่าในประเทศอื่นๆ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย และมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรค

นอกจากนี้ ผู้ประกอบการอาจเน้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์โดยให้ความสำคัญต่อกลิ่นให้มากขึ้น เนื่องจากกลิ่นของผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านถือตัวแปรอันดับต้นๆ ที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์ตัดสินใจซื้อได้ ส่วนช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีประสิทธิภาพสำหรับผลิตภัณฑ์ดูแลบ้านในฟิลิปปินส์ ผู้ประกอบการไทยควรเน้นการใช้ช่องทางจัดจำหน่ายผ่านซูเปอร์มาร์เกต หรือไฮเปอร์มาร์เกต เนื่องจากเป็นช่องทางการจำหน่ายหลัก โดยสามารถจำหน่ายสินค้าผ่านผู้นำเข้า ผู้จัดจำหน่ายที่มีระบบกระจายสินค้าไปสู่ห้างค้าปลีกได้อย่างครอบคลุม หรือการจำหน่ายให้กับซูเปอร์มาร์เกตและไฮเปอร์มาร์เกตโดยตรง และอาจพิจารณาใช้ช่องทางออนไลน์เป็นช่องทางเสริมอีกช่องทางหนึ่ง เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์นิยมใช้ช่องทางออนไลน์ในการเลือกซื้อสินค้ามากขึ้น ที่สำคัญ ก่อนเข้าสู่ตลาด ผู้ประกอบการไทยควรศึกษาวิเคราะห์ตลาดแนวโน้มและพฤติกรรมผู้บริโภคชาวฟิลิปปินส์เชิงลึก เพื่อนำมาใช้ในการกำหนดและวางกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสมและสอดคล้องความต้องการของผู้บริโภคด้วย