“จุรินทร์” ดันเปิดด่าน “ห้วยต้นนุ่น” บูมการค้า-ท่องเที่ยวไทย-เมียนมา

“จุรินทร์” ถก กรอ.พาณิชย์ภูมิภาค เดินหน้ายกระดับ “จุดผ่อนปรนการค้าห้วยต้นนุ่น” เป็นจุดผ่านแดนถาวร พร้อมเร่งกำหนดที่ทำการ “จุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง” หนุนการค้า การท่องเที่ยวไทย-เมียนมา มอบผู้ว่าฯ แม่ฮ่องสอนเชิญทุกฝ่ายหารือหาข้อยุติ และให้รายงานผลภายใน 30 วัน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมหารือร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-เมียนมา ที่ จ.แม่ฮ่องสอน ว่า ได้มีการหารือถึงประเด็นปัญหาการค้าชายแดนไทย-เมียนมา พบว่ามีอยู่ 3 ประเด็นที่จะต้องเดินหน้าเร่งรัดแก้ไข เพื่อผลักดันให้การค้าทำรายได้เข้าประเทศ และผลักดันเรื่องการท่องเที่ยวที่จะมีขึ้นในอนาคต โดยได้มอบหมายให้ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอนเชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาข้อยุติที่ดีที่สุดที่จะให้การค้าและการท่องเที่ยวเดินหน้าต่อไปได้ เพราะทั้งเศรษฐกิจและความมั่นคงล้วนแต่มีความสำคัญ ประเทศจำเป็นต้องดูแลเรื่องความมั่นคงให้ดี ขณะเดียวกัน เศรษฐกิจที่จะต้องเร่งนำรายได้เข้าประเทศก็มีความสำคัญ และขอให้รายงานมาที่ตนภายใน 30 วัน

สำหรับ 3 ประเด็นที่ยังเป็นปัญหาและต้องเร่งแก้ไข ได้แก่ 1. ภาคเอกชน หอการค้าจังหวัด ประสงค์ให้มีการยกระดับจุดผ่อนปรนการค้าห้วยต้นนุ่น เป็นจุดผ่านแดนถาวร ซึ่งฝ่ายความมั่นคงไม่ขัดข้อง แต่ติดขั้นตอน 2-3 เรื่อง คือ 1. การปักปันเขตแดน ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะเป็นผู้รับผิดชอบโดยตรง 2. การสร้างอาคารและถนน อยู่ระหว่างการดำเนินการขอใช้พื้นที่จากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพราะเป็นพื้นที่ป่า ผู้ว่าราชการจังหวัดจะรับไปเร่งรัดดำเนินการให้เกิดผลในภาคปฏิบัติโดยเร็ว

2. หอการค้าจังหวัดและภาคเอกชน ขอให้มีการเปิดจุดผ่อนปรนการค้าห้วยต้นนุ่นเฉพาะกิจ ให้สามารถทำการท่องเที่ยวระหว่างแม่ฮ่องสอน-เมียนมาได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการทำ MoU แล้ว ตั้งแต่วันที่ 9 มี.ค. 2560 ให้เจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายสามารถข้ามแดนไปมาได้ แต่ถึงขั้นการแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยว เป็นรายละเอียดที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมต่อไป

3. การกำหนดจุดที่ทำการของจุดผ่อนปรนบ้านห้วยผึ้ง ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการค้าชายแดน 76% หรือ 3 ใน 4 ผ่านด่านห้วยผึ้ง การกำหนดจุดผ่อนปรนการค้า ยังมีความเห็นที่ไม่สอดคล้องกัน ทั้งในส่วนการปกครองท้องถิ่นและฝ่ายความมั่นคงและอื่นๆ ฝ่ายท้องถิ่นประสงค์ใช้อาคารที่บ้านร่องแห้ง แต่ฝ่ายความมั่นคงยังมีความเห็นว่ามีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในปัจจุบัน ซึ่งยังไม่เป็นที่ยุติ

ปัจจุบันประเทศไทยมี 97 ด่าน เปิดแล้ว 48 ด่าน และจะเร่งทยอยเปิด โดยจังหวัดแม่ฮ่องสอนมีด่านทั้งหมด 5 ด่าน ที่เป็นจุดส่งออกและนำเข้าสินค้า ซึ่งเป็นจุดผ่อนปรนการค้า มูลค่าการค้าชายแดนที่ผ่านด่านจุดผ่อนปรนการค้าทั้ง 5 จุด ในปี 2564 มีมูลค่า 207.79 ล้านบาท เป็นการส่งออก 196.17 ล้านบาท นำเข้า 11.62 ล้านบาท เนื่องจากติดปัญหาสถานการณ์โควิด-19 และปัญหาสถานการณ์ในเมียนมา ทำให้ตัวเลขการค้าเหลือเพียง 207.79 ล้านบาท แต่ปี 2561 ตัวเลขการค้าผ่านจุดผ่อนปรน 5 จุดนี้ มีมูลค่า 1,762 ล้านบาท และเป็นการส่งออก 892 ล้านบาท ถ้าเราทำงานร่วมกันกับเมียนมาและภาคเอกชนอย่างใกล้ชิด ตัวเลขการค้าจะกลับมาได้ต่อไปในอนาคต

สำหรับการประชุมที่ จ.แม่ฮ่องสอนในครั้งนี้ เป็นรูปการประชุม กรอ.พาณิชย์ ในภูมิภาค ที่มีผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน รวมทั้งฝ่ายความมั่นคง หารือในการผลักดันการค้าชายแดน เพื่อเร่งรัดตัวเลขการส่งออกรวมในปี 2565