กระทรวงอุตสาหกรรมรับมอบหน้ากากอนามัยสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ จำนวนกว่า 350,000 ชิ้น มูลค่ากว่า 1 ล้านบาท จาก บริษัท ไอริส โอยามะ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อส่งต่อไปยังกลุ่มชุมชนพื้นที่ต่างๆ หวังช่วยบรรเทาปัญหากลุ่มผู้ติดเชื้อ COVID-19 ให้ลดน้อยลง เผยผลการขับเคลื่อนมาตรการ “Bubble and Seal” ในโรงงานอุตสาหกรรมตัวเลขคนติดเชื้อลดลง ขณะที่มีโรงงานเข้าร่วมในมาตรการฯ เกินเป้าที่วางไว้ 1,500 โรงงาน
นางวรวรรณ ชิตอรุณ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม รับมอบหน้ากากอนามัยขนาดสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ จำนวน 50,160 แพก ปริมาณ 351,120 ชิ้น คิดเป็นมูลค่า 1,003,200 บาท จาก บริษัท ไอริส โอยามะ (ไทยแลนด์) จำกัด เพื่อให้กระทรวงอุตสาหกรรม นำไปแจกจ่ายแก่ประชาชนและใช้ประโยชน์ตามที่เห็นว่าเหมาะสม โดยรองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่กระจายเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ที่มีแนวโน้มทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มจำนวนมากขึ้น หน้ากากอนามัยจึงยังมีความสำคัญต่อการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อดังกล่าวได้ ซึ่งสถานการณ์ในขณะนี้เป็นการติดเชื้อโควิดสายพันธุ์ โอมิครอนที่สามารถติดต่อง่ายและเร็ว
สำหรับหน้ากากอนามัยที่ได้รับบริจาคจากบริษัทฯ จะนำเข้าโครงการ “อุตสาหกรรมห่วงใยสู้ภัยโควิด-19” ภายใต้จิตอาสากระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งมีแผนจะมอบชุดอุปกรณ์ป้องกันโควิด-19 ได้แก่ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อโรค แก่ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก/สถานสงเคราะห์ โรงเรียน และโรงพยาบาลในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และโรงพยาบาลที่ขาดแคลน เพื่อแจกจ่ายแก่ประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ รวมทั้งอาจจะพิจารณาให้เจ้าหน้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติราชการ ซึ่งหน้ากากอนามัยขนาดสำหรับเด็ก ใส่ได้พอดีกับใบหน้า นอกจากจะช่วยป้องกันเชื้อโควิดได้ดีกว่าแล้วยังตอบโจทย์พฤติกรรมของเด็กที่ต้องใส่หน้ากากที่หายใจสะดวก ใส่สบาย เพราะระบบหายใจของเด็กยังไม่แข็งแรง และตลาดมีจำหน่ายไม่มาก ทำให้ผู้ปกครองหลายรายให้เด็กใส่หน้ากากอนามัยสำหรับผู้ใหญ่ การมอบหน้ากากทั้งสองขนาดให้แก่กระทรวงฯ จึงเป็นประโยชน์อย่างมาก
“กระทรวงอุตสาหกรรมขอขอบคุณ บริษัท ไอริส โอยามะ (ไทยแลนด์) จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย ในสินค้าหลายประเภท เช่น เครื่องใช้ในบ้าน อุปกรณ์เก็บ อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และหน้ากาก เป็นต้น ที่ได้มอบหน้ากากอนามัยให้แก่ทางกระทรวงฯ ตลอดจนขอบคุณผู้แทนจากสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ที่ได้มีการประสานความร่วมมือกับกระทรวงอุตสาหกรรมด้วยดีเสมอมา โดยเฉพาะในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ที่ทุกฝ่ายจะต้องร่วมมือกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อให้โรคระบาดดังกล่าวผ่านพ้นไปและกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติในเร็ววัน” นางวรวรรณกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้เป็นหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการด้านการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ในส่วนที่เกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ COVID-19 ในสถานประกอบกิจการและโรงงานอุตสาหกรรม ได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขขับเคลื่อนมาตรการป้องกันและควบคุมโรคในพื้นที่เฉพาะ หรือ Bubble and Seal และภาคอุตสาหกรรมได้ดำเนินการอย่างเข้มแข็ง ส่งผลให้การระบาดในโรงงานอุตสาหกรรมระยะหลังไม่ได้เป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ และมีจำนวนคนติดเชื้อลดลงโดยลำดับ
สำหรับการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ในสถานประกอบกิจการโรงงานระลอกใหม่ (ปี 2565) พบโรงงานมีการระบาดจำนวน 245 โรงงาน ผู้ติดเชื้อรวม 3,318 คน โดยอยู่ระหว่างการรักษา 1,075 ราย หายแล้ว 2,243 ราย ปัจจุบันมีโรงงานเข้าร่วมมาตรการ Bubble and Seal จำนวน 2,563 โรงงาน เกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้ 1,500 โรงงาน