xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” ย้ำต้องระดมทุกหน่วยแก้ภัยแล้งซ้ำซาก ใน 5 อำเภออีสานของกาญจนบุรีอย่างจริงจัง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้มอบให้กรมทรัพยากรน้ำบาดาลไว้เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2563 ณ จังหวัดเลย ให้ดำเนินการจัดหาน้ำบาดาลให้แก่ประชาชนเพื่อทำการเกษตรในฤดูแล้ง

ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำรายภาค ในพื้นที่ภาคกลาง พร้อมคณะติดตามความก้าวหน้างานกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเพื่อแก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเกษตร และผลสัมฤทธิ์ของโครงการพื้นที่อำเภอเลาขวัญ และห้วยกระเจา ได้แก่ โครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ พื้นที่ 500 ไร่ (งบกลางประจำปีงบประมาณ 2563) บ้านหนองแก หมู่ 5 ตำบลทุ่งกระบ่ำ อำเภอเลาขวัญ จังหวัดกาญจนบุรี สามารถสูบน้ำบาดาลขึ้นมาได้มากถึง 37 ลบ.ม./ชั่วโมง ได้ปริมาณน้ำกว่า 108,040 ลบ.ม./ปี ระบบกระจายน้ำ 3 กิโลเมตร พื้นที่การเกษตร 576 ไร่ เกษตรกรเข้าร่วมโครงการ 30 ราย ส่วนใหญ่การเพาะปลูกพืชตามความเหมาะสมของพื้นที่ เช่น มันสำปะหลัง อ้อย ผักชี หม่อน พริก และหญ้าเนเปียร์ เป็นต้น สร้างรายได้กว่า 5,496,000 บาท/ปี

โครงการศึกษาสำรวจและรูปแบบการพัฒนาน้ำบาดาลจากแหล่งกักเก็บในหินแข็งระดับลึกในพื้นที่ธรณีวิทยาโครงสร้างซับซ้อน ตำบลห้วยกระเจา อำเภอห้วยกระเจา จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งเป็น 1 ใน 15 โครงการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมรับไว้เป็นโครงการพระราชดำริ ปัจจุบันดำเนินการแล้วเสร็จสามารถผลิตน้ำต้นทุนได้ปริมาณกว่า 1,051,200 ลูกบาศก์เมตร/ปี ประชาชนได้รับประโยชน์ 9 หมู่บ้านจำนวน 4,989 คน หรือ 2,015 ครัวเรือน และมีเกษตรกรได้รับประโยชน์ 75 ราย พื้นที่การเกษตรรวม 880 ไร่ และยังขยายผลโครงการโดยการขยายแนวท่อส่งน้ำโดยเทศบาลตำบลห้วยกระเจา ระยะทางรวม 5.2 กิโลเมตร จัดทำแผนการขยายแนวท่อกระจายน้ำเชื่อมต่อไปยังตำบลวังไผ่ โดยโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดกาญจนบุรี และจัดทำแผนขับเคลื่อนโครงการจัดหาน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดกาญจนบุรี และสำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัดกาญจนบุรี โดยมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพิ่มมูลค่าสินค้า เพิ่มช่องทางการผลิต บริหารจัดการ และเสริมสร้างความเข้มแข็งเกษตรกร

ในส่วนการแก้ปัญหาพื้นที่ 5 อำเภอแห้งแล้ง ได้แก่ อำเภอบ่อพลอย ห้วยกระเจา เลาขวัญ หนองปรือ และพนมทวน ดร.สมเกียรติ ประจำวงษ์ ประธานอนุกรรมการบริหารจัดการน้ำรายภาค ในพื้นที่ภาคกลาง ได้ชี้แจงว่า ได้มีมติอนุฯ ครั้งที่ 4/2563 (18 ธ.ค.63) รับทราบแนวทางการแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรี ประกอบด้วย
- โครงการผันน้ำจากเขื่อนศรีนครินทร์เพื่อบรรเทาปัญหาภัยแล้ง จังหวัดกาญจนบุรี ปริมาณน้ำที่ผันทั้งหมด 256.5 ล้าน ลบ.ม./ปี (ผันและส่งน้ำด้วยแรงโน้มถ่วงทั้งหมด) แบ่งเป็นน้ำเพื่ออุปโภคบริโภครวม 2.0 ล้าน ลบ.ม./ปี และปริมาณน้ำเพื่อการเกษตรกรรม 254.5 ล้าน ลบ.ม. พื้นที่รับประโยชน์ 486,098 ไร่ ครัวเรือนที่ได้รับผลประโยชน์  53,810 ครัวเรือน รายได้ต่อครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 90,449 บาท/ปี ความก้าวหน้าของโครงการขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำคำชี้แจงคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ด้านพัฒนาแหล่งน้ำ และ

- โครงการสถานีสูบน้ำจากแม่น้ำแควใหญ่ พื้นที่รับประโยชน์ในเขตอำเภอบ่อพลอย และตำบลวังด้ง อำเภอเมืองกาญจนบุรี ปริมาณน้ำที่ผันทั้งหมด 27.3 ล้าน ลบ.ม./ปี ผลประโยชน์ประมาณน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค 0.63  ล้านลูกบาศก์เมตร/ปี และบรรเทาความขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตรในพื้นที่ 78,508 ไร่ มีครัวเรือนที่ได้รับประโยชน์ 21,659 ครัวเรือน รายได้ต่อครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น 19,001.12 บาท/ปี ความก้าวหน้าอยู่ระหว่างการสำรวจและออกแบบรายละเอียดโดยกรมชลประทาน
นอกจากนี้ ในพื้นที่ 5 อำเภอดังกล่าวยังมีแผนงานสำคัญเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ ได้แก่

- โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินบนพร้อมระบบผันน้ำ พื้นที่รับประโยชน์รวม 42,000 ไร่ (อ.หนองปรือ เลาขวัญ และ อ.ห้วยกระเจา)

- โครงการขยายความจุอ่างเก็บน้ำลำอีซู พื้นที่รับประโยชน์ 5,000 ไร่ (อ.บ่อพลอย)

- โครงการก่อสร้างระบบส่งน้ำอาคารประกอบคลองท่าล้อ-อู่ทอง พื้นที่รับประโยช์รวม 149,500 ไร่ ซึ่งดำเนินการพัฒนาโครงการมาอย่างต่อเนื่อง ปัจจุบันสามารถพัฒนาพื้นที่ไปได้แล้ว 35,000 ไร่ (อ.พนมทวน และ อ.ห้วยกระเจา) 

รวมทั้งโครงการพัฒนาน้ำบาดาลเพื่อสนับสนุนแหล่งน้ำผิวดิน โดยแต่ละโครงการเป็นแผนงานที่เหมาะสมต่อสภาพบริบทของพื้นที่ หากดำเนินการขับเคลื่อนให้เป็นไปตามแผนงานจะสามารถแก้ปัญหาภัยแล้งในพื้นที่ 5 อำเภอของจังหวัดกาญจนบุรีได้อย่างทั่วถึงและยั่งยืน


กำลังโหลดความคิดเห็น