xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์”ติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ยังไม่กระทบส่งออกนำเข้า

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์”ถกวอร์รูม ติดตามสถานการณ์รัสเซีย-ยูเครน ยังไม่พบผลกระทบต่อการส่งออกนำเข้า แต่พบผลิตภัณฑ์ยาง มีโอกาสส่งออกแทนที่รัสเซียในสหรัฐฯ สินค้าประมงในอังกฤษ ย้ำต้องจับตาน้ำมัน ที่จะกระทบต่อต้นทุนสินค้าและค่าขนส่ง สั่งการทุกหน่วยงานติดตามใกล้ชิด และรายงานผลทุกวัน หากมีปัญหา จะเข้าไปช่วยแก้ไขทันที

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มีการประชุมร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ เพื่อประเมินสถานการณ์ในกรณีรัสเซียกับยูเครน และติดตามมาตรการการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของ 6 ประเทศว่าจะมีผลกระทบอย่างไรต่อการส่งออกนำเข้าของไทย รวมทั้งการประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก ซึ่งอาจมีผลกระทบต่อค่าขนส่งสินค้า ตัวเลขเงินเฟ้อ และราคาสินค้าในประเทศ โดยได้เชิญทูตพาณิชย์มอสโกเข้าร่วมด้วย

โดยจากการประเมินในเบื้องต้น มีทั้งด้านลบและบวก โดยมีสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง คือ เรื่องราคาน้ำมันที่ราคาสูงขึ้นแตะ 100 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และยังไม่สามารถประเมินได้ว่าราคาจะขึ้นสูงกว่านี้ไปอีกหรือไม่ เห็นว่าจะมีผลต่อต้นทุนการขนส่งและต้นทุนการผลิตสินค้า รวมทั้งราคาสินค้าต่อไปในอนาคตได้ ขณะนี้ยังไม่ขอลงลึก เพราะไม่อยากประเมินสถานการณ์ในด้านลบทั้งหมดไปก่อนล่วงหน้า

สำหรับด้านบวก ยังไม่มีผลกระทบต่อการส่งออกและนำเข้า แต่พบว่ามีสินค้าบางอย่างที่ไทยมีศักยภาพและสามารถเข้าไปทดแทนตลาดโลกที่เป็นตลาดเดิมของรัสเซียหรือยูเครนได้ หากเกิดสงครามที่ยืดเยื้อ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาง รัสเซียส่งออกไปยังสหรัฐฯ ปีละ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 5,500 ล้านบาทต่อปี ขณะที่ไทยส่งสินค้าดังกล่าวนี้ไปสหรัฐฯ เช่นกัน โดยมีมูลค่าประมาณ 5,000 กว่าล้านบาท จึงมีศักยภาพที่จะส่งออกไปสหรัฐฯ แทนสินค้าจากรัสเซียในช่วงที่เกิดภาวะขัดแย้ง และยังมีสินค้าประมงที่รัสเซียส่งออกไปยังสหภาพยุโรปประมาณปีละ 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งไทยมีศักยภาพสามารถทดแทนตลาดสินค้าประมงในสหราชอาณาจักรหรืออังกฤษ แทนที่รัสเซียได้ ในช่วงที่เกิดการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ

“ผมได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กับกรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในกระทรวงพาณิชย์ ไปหารือร่วมกันกับภาคเอกชน และติดตามสถานการณ์ รวมทั้งประเมินสถานการณ์ร่วมกันอย่างใกล้ชิด ถ้าพบปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไขเร่งด่วน จะได้แก้ปัญหาร่วมกันในทันที และให้รายงานสถานการณ์และการประเมินสถานการณ์ให้ผมทราบทุกวัน”นายจุรินทร์กล่าว

ปัจจุบันรัสเซียเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 30 ของไทย ส่วนยูเครนเป็นคู่ค้ารายสำคัญอันดับที่ 63 ของไทย โดยในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-รัสเซีย มีมูลค่า 88,167 ล้านบาท เพิ่ม 14.56% โดยไทยส่งออกไปยังรัสเซีย มูลค่า 32,508 ล้านบาท เพิ่ม 44.90% และนำเข้าจากรัสเซีย มูลค่า 55,660 ล้านบาท เพิ่ม 2.07% สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (10,162 ล้านบาท) ผลิตภัณฑ์ยาง (3,379 ล้านบาท) เครื่องจักรกลและ ส่วนประกอบของเครื่องจักรกล (1,706.9 ล้านบาท) ผลไม้กระป๋องและแปรรูป (1,455.6 ล้านบาท) เม็ดพลาสติก (1,380.7 ล้านบาท) เป็นต้น สินค้าส่งออกที่มีการขยายตัวสูงในหมวดสินค้าเกษตรและอาหาร ได้แก่ ยางพารา สิ่งปรุงรส อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ผลไม้สดแช่เย็น แช่แข็งและแห้ง ผลิตภัณฑ์ มันสำปะหลัง สินค้าที่ไทยนำเข้าจากรัสเซีย 5 อันดับแรก คือ น้ำมันดิบ (25,958.9 ล้านบาท) ปุ๋ย และยากำจัดศัตรูพืชและสัตว์ (5,667.6 ล้านบาท) เหล็ก เหล็กกล้า และผลิตภัณฑ์ (5,568.4 ล้านบาท) สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ (5,307.4 ล้านบาท) เครื่องบิน เครื่องร่อน อุปกรณ์การบินและส่วนประกอบ (3,350.3 ล้านบาท)

ส่วนยูเครน ในปี 2564 การค้าระหว่างไทย-ยูเครน มีมูลค่า 12,428 ล้านบาท เพิ่ม 28.67% โดยไทยส่งออกไปยังยูเครน มูลค่า 4,228 ล้านบาท เพิ่ม 37.36% และนำเข้าจากยูเครน มูลค่า 8,199 ล้านบาท เพิ่ม 24.60% สินค้าที่ไทยส่งออกไปยังยูเครน 5 อันดับแรก คือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ (1,037.1 ล้านบาท) ผลิตภัณฑ์ยาง (671.7 ล้านบาท) ผลไม้กระป๋อง และแปรรูป (542.5 ล้านบาท) อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป (285.3 ล้านบาท) เม็ดพลาสติก (264.3 ล้านบาท) สินค้าไทยนำเข้าจากยูเครน 5 อันดับ คือ พืชและผลิตภัณฑ์จากพืช (4,419 ล้านบาท) เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ (3,013.6 ล้านบาท) ไม้ซุง ไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์ (133 ล้านบาท) สินแร่โลหะอื่น ๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ (112.5 ล้านบาท) แร่และผลิตภัณฑ์จากแร่ (112.3 ล้านบาท)


กำลังโหลดความคิดเห็น