กรมทางหลวง จับมือ เซเว่นฯ เปิดเคาน์เตอร์เซอร์วิสกว่า 13,000 สาขาทั่วประเทศ รับชำระค่าธรรมเนียม M-Flow มอเตอร์เวย์ เพิ่มความสะดวกผู้ใช้บริการ พร้อมปรับปรุง ลดขั้นตอนการลงทะเบียน สมัครใช้บริการและผูกบัญชีให้ยุ่งยากน้อยลง เตรียมรับเปิดใช้จริง 15 ก.พ. 65 นี้
วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2565 นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) และ นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงการรับชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) ณ ห้องประชุมสวัสดิ์วรวิถี อาคารพหลโยธิน กรมทางหลวง เพื่อเป็นข้อตกลงร่วมกันในการให้บริการชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการ M-Flow ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของร้าน 7-Eleven ทุกสาขากว่า 13,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นการอำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้บริการและสร้างแรงจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ระบบ M-Flow มากขึ้น
นายสราวุธ ทรงศิวิไล อธิบดีกรมทางหลวง (ทล.) เปิดเผยว่า ทล.ได้มีการเปิดให้ประชาชนลงทะเบียนเป็นสมาชิกเพื่อทดลองใช้บริการระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow และร่วมทดสอบเสมือนจริง มาตั้งแต่เมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นมา ซึ่งพบว่ามีผู้สนใจใช้ระบบ M-Flow เป็นจำนวนมาก โดยจะมีการเปิดใช้จริง M-Flow เต็มระบบ ใน วันที่ 15 ก.พ. 2565 กรมทางหลวงจึงจัดหากลุ่มพันธมิตรหรือองค์กรต่างๆ มาเพื่อร่วมพัฒนาและต่อยอดการให้บริการ
โดยการลงนามร่วมกันในครั้งนี้ เป็นความร่วมมือกับบริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อให้บริการชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการ M-Flow ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสของร้าน 7-Eleven ทุกสาขากว่า 13,000 สาขา ตลอด 24 ชั่วโมง ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เป็นการอำนวยความสะดวกในการชำระค่าธรรมเนียมการใช้บริการ M-Flow และตอบโจทย์ความต้องการของประชาชนได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังพัฒนาขั้นตอนการตรวจสอบผู้หลีกเลี่ยงไม่ชำระค่าธรรมเนียมผ่านทางและการบังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
ด้าน นายธนศักดิ์ วงศ์ธนากิจเจริญ ผู้อำนวยการกองทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) กรมทางหลวง กล่าวว่า ทล.ได้พัฒนาระบบร่วมกับเคาน์เตอร์เซอร์วิส เพื่อตอบโจทย์การเข้าถึงการรับชำระเงินในทุกพื้นที่ผ่านร้าน 7-Eleven ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง โดยผู้ใช้ทางที่ยังไม่ได้สมัครผูกบัญชี ก็สามารถใช้ระบบ M-Flow ได้ ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส ของเซเว่นฯ โดยแจ้งเพียงป้ายทะเบียนรถที่เข้าใช้ระบบ M-Flow เท่านั้นก็สามารถะชำระค่าธรรมเนียมได้สะดวกและรวดเร็ว
ทั้งนี้ กรมทางหลวงได้เปิดให้ผู้สนใจสมัครใช้บริการได้หลากหลายช่องทาง ทั้ง Website : www.mflowthai.com หรือ Mobile Application : mflowthai และจุดบริการของกรมทางหลวง 5 จุด ได้แก่ กรมทางหลวง (พระราม 6), จุดบริการด่านทับช้าง 1 ขาเข้า และด่านทับช้าง 2 ขาออก, Service Area บางปะกง 1 ขาออก และบางปะกง 2 ขาเข้า และยังมีหน่วยบริการเคลื่อนที่ Mobile Unit จำนวน 4 คัน ที่ให้บริการ M-Flow One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้สมัครใช้บริการ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายในการติดตั้งอุปกรณ์แต่อย่างใด
นอกจากนี้ กรมทางหลวงยังจะปรับปรุงขั้นตอนการลงทะเบียนให้มีความสะดวกยิ่งขึ้น เช่น ลดขั้นตอนการกรอกข้อมูลเลเซอร์หลังบัตรประชาชน เลขตัวถังรถ โดยผู้ที่สมัครผูกบัญชีกับระบบ M-Flow จะสามารถชำระค่าธรรมเนียมได้หลายช่องทางแล้ว ยังมีสิทธิ์ในการได้รับโปรโมชั่นต่างๆ ที่จะมีในอนาคตอีกด้วย
นายวีรเดช อัครผลพานิช รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท เคาน์เตอร์เซอร์วิส จำกัด หนึ่งในธุรกิจของบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า มีความยินดีที่ได้ร่วมพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M-Flow ร่วมกับกรมทางหลวง โดยการให้บริการสามารถรองรับลูกค้าที่เป็นสมาชิกและไม่ใช่สมาชิก ด้วยขั้นตอนการชำระเงินโดยใช้เอกสารที่มีแถบบาร์โค้ดจากช่องทางของกรมทางหลวง หรือหมายเลขโทรศัพท์ที่ลงทะเบียนไว้มาชำระเงินที่ร้าน 7-Eleven สำหรับลูกค้าที่ไม่ได้เป็นสมาชิกก็สามารถชำระได้โดยใช้หมายเลขโทรศัพท์, ทะเบียนรถ, จังหวัดทะเบียนรถ จากนั้นรับหลักฐานการรับชำระผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของเคาน์เตอร์เซอร์วิสแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว โดยปัจจุบันมีจุดให้บริการเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้าน 7-Eleven อยู่กว่า 13,000 สาขา ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ จึงมั่นใจว่าจะช่วยอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนรวมถึงระบบการจัดการการรับชำระของกรมทางหลวงได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ การจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น หรือ M–Flow ผ่านระบบของเคาน์เตอร์เซอร์วิส จะช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้บริการเดิมและยังเป็นแรงจูงใจสำหรับผู้ที่ต้องการสมัครใช้บริการใหม่ด้วย ซึ่งหากมีผู้หันมาใช้บริการ M-Flow เพิ่มมากขึ้น ก็จะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดจากการชำระด้วยเงินสดบริเวณหน้าด่านแบบเดิม และยังช่วยให้ผู้ใช้ทางสามารถใช้ความเร็วต่อเนื่อง ที่สำคัญยังช่วยลดการสัมผัส ป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด19 และเข้ากับการดำเนินชีวิตวิถีใหม่ หรือ New Normal เป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตและการเดินทางของคนไทยอีกด้วย