xs
xsm
sm
md
lg

กฟผ.อุ้มค่าไฟแล้ว 3.6 หมื่นล้านบาทลดภาระประชาชน พร้อมเร่งปรับแผนลดต้นทุนเพิ่มอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กฟผ.กางแผนลดภาระค่าไฟฟ้าของประชาชน อุ้มค่าเอฟทีงวด ก.ย.-ธ.ค. 64 กว่า 36,000 ล้านบาท พร้อมปรับแผนบริหารจัดการเชื้อเพลิงใหม่ โดยเลื่อนปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 ที่ใช้เชื้อเพลิงถ่านหินออกไป 1 ปี และเดินเครื่องโรงไฟฟ้าบางโรงด้วยน้ำมันเตา-ดีเซลแทนก๊าซฯ ช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้ถึง 14,800 ล้านบาท

ดร.จิราพร ศิริคำ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในฐานะโฆษก กฟผ. เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ราคาพลังงานของโลกปรับตัวสูงขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ กฟผ.ได้แบกรับต้นทุนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าโดยเฉพาะค่าก๊าซฯ แทนผู้ใช้ไฟฟ้าในงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม 2564 ไปก่อนเป็นการชั่วคราว ประมาณ 36,000 ล้านบาท ขณะเดียวกัน กฟผ.ได้เร่งบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อ 6 ม.ค. 2565 เพื่อลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้อีก 14,800 ล้านบาท

ทั้งนี้ การบริหารจัดการ ได้แก่ เลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เครื่องที่ 8 ที่มีกำหนดปลดออกจากระบบผลิตไฟฟ้าในวันที่ 1 มกราคม 2565 ที่ผ่านมา เนื่องจากหมดอายุการใช้งาน ออกไปจนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 รวมระยะเวลาประมาณ 1 ปี ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าในภาพรวมของประเทศลงได้ คาดว่าการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 ซึ่งใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิง กำลังผลิตประมาณ 2,160 ล้านหน่วย เทียบเท่ากับการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) ประมาณ 15,330 ล้านลูกบาศก์ฟุตลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ถึงประมาณ 12,200 ล้านบาท

พร้อมกันนี้ ยังได้ปรับเปลี่ยนการใช้เชื้อเพลิงของโรงไฟฟ้าบางปะกงและโรงไฟฟ้าเอกชนในภาคตะวันตกให้มาใช้น้ำมันเตาและน้ำมันดีเซล แทนการใช้ก๊าซฯ ระหว่างเดือนพฤศจิกายน-ธันวาคม 2564 เพื่อลดการนำเข้า LNG คิดเป็นพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้ประมาณ 1,235 ล้านหน่วย เทียบเท่ากับการใช้ LNG 7,839 ล้านลูกบาศก์ฟุต ช่วยลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าลงได้ถึง 2,600 ล้านบาท


“วิกฤตพลังงานที่ราคาก๊าซธรรมชาติหรือ LNG ในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี 2564 จนถึงปัจจุบัน รวมทั้งอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินที่อ่อนค่าลง ส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนการผลิตไฟฟ้า ทำให้ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น กฟผ. ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อประชาชนเป็นอย่างยิ่ง จึงเร่งดำเนินการ ตามแนวทางการบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติตามมติ กพช.ดังกล่าว และยังเตรียมพร้อมแผนรองรับอื่นๆ ไว้อีกด้วย เช่น การปรับแผนการผลิตไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำต่างประเทศให้สอดคล้องรองรับกับสถานการณ์ และแนวทางการรับซื้อไฟฟ้าจากผู้ผลิตไฟฟ้าขนาดเล็ก (SPP) ประเภทพลังงานหมุนเวียน เพิ่มเติมจากสัญญาเดิม พร้อมทั้งจัดตั้ง War Room เพื่อติดตามข้อมูลราคาเชื้อเพลิงแต่ละประเภท และพิจารณาเปรียบเทียบต้นทุนการผลิตไฟฟ้าจาก LNG ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้วิกฤตพลังงานในครั้งนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี” ดร.จิราพรกล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น