กรมเจ้าท่าประสานเจ้าของเรือ "ป.อันดามัน 2" เร่งกู้เรือ พร้อมประกาศพื้นที่อันตราย ห้ามเดินเรือใกล้ เร่งวางทุ่นล้อมเตรียมกำจัดคราบน้ำมันรั่วไหล
จากกรณีที่เหตุการณ์เรือบรรทุกน้ำมันดีเซล (น้ำมันเขียว) ชื่อเรือ “ป.อันดามัน 2” ซึ่งจอดทอดสมอได้อับปางลงบริเวณอ่าวไทย ซึ่งห่างจากปากน้ำชุมพรประมาณ 24 ไมล์ทะเล และจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ในเบื้องต้น พบว่าเรือ ป.อันดามัน 2 มีนายวายุ หมอยาดี เป็นนายเรือ มีลูกเรือจำนวน 5 นาย ซึ่งนายเรือและลูกเรือทั้งหมดได้รับการช่วยเหลือจากเรือวีนัส 21 อย่างปลอดภัย
นายภูริพัฒน์ ธีระกุลพิศุทธิ์ รองอธิบดีกรมเจ้าท่า (จท.) ด้านปลอดภัย เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่าได้รับรายงานเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 22 มกราคม 2565 เวลา 19.15 น. จึงได้สั่งการให้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพรติดตามและประสาน บริษัท แหลมทองค้าน้ำมันประมงไทย จำกัด ที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าว เร่งกู้เรือพร้อมทำการขจัดคราบน้ำมัน โดยเร่งวางทุ่นล้อมน้ำมันบริเวณเรือที่จม พร้อมประกาศเป็นพื้นที่อันตราย
โดยสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 4 สาขาชุมพร ได้มีการออกประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขาชุมพร ที่ 5/2565 เรื่อง ห้ามเดินเรือเข้าพื้นที่ที่ทำการกู้เรือ หรือทำการรื้อ ขนย้าย หรือทำลายซากเรือที่จม ไม่น้อยกว่าระยะ 1 ไมล์ทะเล ตั้งแต่วันที่ 23 มกราคม 2565 ถึงจนกว่าจะกู้เรือแล้วเสร็จ พร้อมมีคำสั่งห้ามใช้เรือจนกว่าผู้ครอบครองเรือจะแก้ไขปรับปรุงเรือให้มีสภาพเรียบร้อยปลอดภัยแก่การใช้งาน ทั้งนี้ การดำเนินการกู้เรือและขจัดคราบน้ำมันรั่วไหล ต้องเป็นไปตามมาตรการและแผนการดำเนินการด้านความปลอดภัยที่กรมเจ้าท่ากำหนด
ทั้งนี้ จากการตรวจสอบคราบน้ำมันที่กระจายตัว พบว่าลักษณะของน้ำมันเป็นฟิล์มน้ำมันบางๆ การปล่อยให้สลายตัวตามธรรมชาติจะมีความเหมาะสม เนื่องจากชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลสามารถสลายตัวเองได้ดีในธรรมชาติ แต่ยังต้องมีการติดตามและเฝ้าระวังผลกระทบของคราบน้ำมันว่าจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบริเวณใกล้เคียงในลักษณะใดบ้าง เพื่อหาวิธีแก้ไขที่เหมาะสมต่อไป
เบื้องต้นจะใช้วิธีการกักและเก็บโดยทุ่นน้ำมัน (Boom) จำกัดขอบเขตการแพร่กระจายของน้ำมันเอาไว้ขณะกู้เรือ พร้อมใช้สารเคมีขจัดคราบน้ำมันฉีดพ่นไปบนพื้นผิวน้ำ โดยชนิดของน้ำมันที่รั่วไหลในครั้งนี้ คือ น้ำมันดีเซล ซึ่งจัดเป็นน้ำมันเบา สามารถสลายไปได้เองตามธรรมชาติ โดยกรมเจ้าท่าได้ประสานการดำเนินการแบบบูรณาการร่วมกับกองทัพเรือในการปฏิบัติตามแผนการขจัดคราบน้ำมัน พร้อมเร่งตรวจสอบความปลอดภัยของเรือลำอื่นๆ ที่จอดทอดสมออยู่กลางทะเล
กรมเจ้าท่าได้มีการออกคำสั่งให้กู้เรือโดยเร็วที่สุดพร้อมลงพื้นที่ตรวจสอบโดยเรือตรวจการณ์เจ้าท่า 1302 บริเวณชายฝั่ง ปัจจุบันในพื้นที่ยังไม่พบคราบน้ำมัน พร้อมกันนี้ได้มีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนตามมาตรการการป้องกันเหตุการณ์ฉุกเฉินในกรณีน้ำมันรั่วไหล พร้อมเน้นย้ำให้ผู้ควบคุมเรือ เจ้าของเรือ ตรวจเช็กสภาพความพร้อมของเรือเพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุซ้ำขึ้นอีก