พล.ร.ต.สุรศักดิ์ ประทานวรปัญญา รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.ภาค 2) เปิดเผยถึงกรณีเรือปริศนา ไม่ปรากฏสัญชาติ และตรวจสอบไม่พบตัวอักษรในสารบบ ลอยคว้างกลางทะเลบริเวณ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ว่า กองทัพเรือภาค 2 และศรชล.ภาค 2 ได้ชักลากจูงเรือจากพิกัดที่พบเรือ มุ่งหน้าปากน้ำตาปี อ.เมืองสุราษฎร์ธานี แต่เมื่อมาถึงบริเวณพื้นที่ อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ห่างจากฝั่ง 28 ไมล์ทะเล ซึ่งมีระดับน้ำลึกประมาณ 28 เมตร สภาวะคลื่นลมแรง ทำให้เรือลำดังกล่าวจมดิ่งลงไปใต้ท้องทะเล จึงประกาศเป็นพื้นที่เรือจม เพื่อให้ชาวประมงระมัดระวังในการเดินเรือ
ทั้งนี้ เกิดคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าว แม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ จึงเร่งขจัดคราบน้ำมันให้หมดภายในระยะ 2-3 วันนี้ เพราะจากทิศทางลมและคลื่น อาจจะพัดพาคราบน้ำมันไปทางเกาะมัดสุ่มที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 ไมล์ทะเล จึงมีความจำเป็นต้องเร่งขจัดเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อมโดยเร็วที่สุด ในส่วนของการเก็บกู้ซากเรือจะดำเนินการหรือไม่ อยู่ระหว่างการประเมินถึงสภาพความพร้อม ผลกระทบอีกครั้ง
ทั้งนี้ เกิดคราบน้ำมันบริเวณดังกล่าว แม้จะมีปริมาณไม่มาก แต่เพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบ จึงเร่งขจัดคราบน้ำมันให้หมดภายในระยะ 2-3 วันนี้ เพราะจากทิศทางลมและคลื่น อาจจะพัดพาคราบน้ำมันไปทางเกาะมัดสุ่มที่อยู่ห่างกันประมาณ 30 ไมล์ทะเล จึงมีความจำเป็นต้องเร่งขจัดเพื่อไม่ให้กระทบต่อการท่องเที่ยว และสภาพแวดล้อมโดยเร็วที่สุด ในส่วนของการเก็บกู้ซากเรือจะดำเนินการหรือไม่ อยู่ระหว่างการประเมินถึงสภาพความพร้อม ผลกระทบอีกครั้ง