กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จับมือ “แม็คโคร” ช่วยผู้ประกอบการ SMEs ลุยตลาดต่างประเทศ ผ่านสาขาที่มีอยู่ในจีน กัมพูชา เมียนมา และอินเดีย เตรียมพร้อมลงนาม MOU เพื่อร่วมมือกันต่อไป
นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ปฏิบัติตามนโยบายนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในการเพิ่มช่องทางการขยายตลาดต่างประเทศให้กับผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (SMEs) โดยได้หารือกับบริษัท สยามแม็คโคร จำกัด (มหาชน) เพื่อร่วมมือกันในการพัฒนาสินค้า SMEs สู่ตลาดต่างประเทศผ่านสาขาของแม็คโคร ในต่างประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ 7 สาขา ในจีน กัมพูชา เมียนมา และอินเดีย รวมถึงผ่านสาขาที่แม็คโครจะมีการขยายเพิ่มขึ้นในอนาคต
สำหรับแนวทางความร่วมมือระหว่างกรมฯ กับแม็คโคร จะมีการจัดกิจกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ได้แก่ 1.การจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายผ่านห้างแม็คโครในต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น 2.การพัฒนากลุ่มผู้ประกอบการ SMEs ในเครือข่ายของ บมจ. สยามแม็คโคร ผ่านการอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ และ 3.การจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้า เพื่อส่งเสริมผู้ประกอบการขยายตลาดสู่ต่างประเทศผ่านสาขาต่างประเทศของแม็คโคร รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ของกรมฯ เป็นต้น
ทั้งนี้ แม็คโครยังได้เสนอแผนการจัดทำบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่าง บมจ. สยามแม็คโคร กับกรมฯ ในการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs สู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งกรมฯ มีความยินดีที่จะร่วมมือกับทางแม็คโคร โดยสาระสำคัญความร่วมมือใน MOU จะต้องสอดคล้องกับภารกิจของกรมฯ ในการส่งเสริมผู้ประกอบการไทยในการทำธุรกิจการค้าในต่างประเทศ ซึ่งกรมฯ กำลังอยู่ระหว่างการประสานส่งข้อมูลกิจกรรม รวมถึงประสานรายละเอียดการจัดทำ MOU กับทางแม็คโคร
“การส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs ให้มีโอกาสในการขยายตลาดต่างประเทศ เป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญของกรมฯ ที่จะดำเนินการในปี 2565 และยังสอดคล้องกับนโยบายของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ให้ความสำคัญกับการช่วยส่งเสริมและผลักดัน SMEs ออกสู่ตลาดต่างประเทศ ซึ่งที่ผ่านมา กรมฯ ได้เพิ่มช่องทางและช่วยเพิ่มโอกาสให้ SMEs ได้มีโอกาสขยายตลาดต่างประเทศ ทั้งการสนับสนุนผ่านโครงการ SMEs Proactive การเปิดพื้นที่ให้เข้าร่วมงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสในการแนะนำสินค้าและเปิดตัวสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงการเปิดโอกาสให้เข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาจับคู่ธุรกิจออนไลน์”นายภูสิตกล่าว