ผู้จัดการรายวัน 360 - โลตัสตอกย้ำการเป็น ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ ให้ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย เผยปี พ.ศ. 2564 สนับสนุน SME และเกษตรกรเกือบ 7,000 รายผ่านโครงการต่างๆ ตั้งแต่การเจรจาทางธุรกิจออนไลน์ การเพิ่มสินค้า SME กว่า 1,000 รายการจำหน่ายในสาขาทั่วประเทศและช่องทางออนไลน์ รับซื้อสินค้าเกษตรตรงโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เปิดพื้นที่ในศูนย์การค้าให้คนตัวเล็กฟรีท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 และพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการรอบด้าน
นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย กล่าวว่า “โลตัส ในฐานะผู้ดำเนินธุรกิจค้าปลีก เรามุ่งมั่นดูแลลูกค้าให้ ‘รู้สึกดีดี ทุกวันที่โลตัส’ ผ่านการบริการ และสินค้าคุณภาพในราคาที่เอื้อมถึง ไปพร้อมๆ กับการดูแลชุมชนและสังคม รวมถึงการสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME ที่เป็นรากฐานและหัวใจสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย
โลตัสสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME มาอย่างต่อเนื่อง
โดยเป็นทั้งช่องทางการจำหน่ายสินค้าทั้งออนไลน์ และออฟไลน์ในกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศ และเป็นพันธมิตรที่คอยสนับสนุนเกษตรกร และผู้ประกอบการ SME ให้มีรากฐานที่มั่นคง และสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เราทำงานร่วมกับพันธมิตรหลายภาคส่วนทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อเป็น ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ ให้แก่ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย โดยตลอดทั้งปี พ.ศ. 2564 ที่ผ่านมาเราได้สนับสนุนผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรเกือบ 7,000 ราย ให้สามารถมีรายได้และโอกาสในการเติบโตที่ยั่งยืนผ่านการสนับสนุนในรูปแบบต่างๆ ที่เหมาะสมกับศักยภาพและความพร้อมของผู้ประกอบการแต่ละราย
1. สำหรับผู้ประกอบการในระดับเริ่มต้น เราได้มีการจัดอบรมให้ความรู้เบื้องต้น และมอบพื้นที่ในศูนย์การค้าฟรี โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 1,670 ราย ได้เปิดบูทจำหน่ายสินค้า ทดลองตลาด และขยายฐานลูกค้าผ่านสาขาของโลตัสทั่วประเทศ ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ Food and Art Free Market
2. สำหรับผู้ประกอบการในระดับกลาง เราเสริมสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรม พัฒนาศักยภาพ ยกระดับมาตรฐานสินค้า มาตรฐานคุณภาพ และมาตรฐานการผลิต รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่เชื่อถือได้ ให้แก่ผู้ประกอบการ เพื่อเตรียมความพร้อมในการวางจำหน่ายสินค้าในโลตัส
3. สำหรับผู้ประกอบการที่มีความพร้อมสูง สามารถวางจำหน่ายสินค้า SME ทั้งในกว่า 2,100 สาขา และช่องทางออนไลน์ของโลตัส เข้าถึงฐานลูกค้าทั่วประเทศ พร้อมโอกาสในการส่งออก
นายสมพงษ์กล่าวว่า จากการดำเนินงานตลอดปี 2564 โลตัสได้พัฒนาและเพิ่มคู่ค้ารายใหม่ที่เป็นผู้ประกอบการ SME ที่มีศักยภาพ จำนวน 724 ราย และเพิ่มสินค้า SME คุณภาพ จำนวน 1,125 รายการ ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ (Online Business Matching) เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME นำเสนอสินค้าต่อฝ่ายจัดซื้อของโลตัสตลอดทั้งปี และในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เราได้สนับสนุน และให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ผ่านการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพกว่า 1,600 ราย และลดค่าเช่าในศูนย์การค้าให้แก่ผู้ประกอบการกว่า 1,500 ราย
นอกจากนั้น โลตัสยังคงดำเนินโครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร (Direct Sourcing) มาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2564 เราได้รับซื้อผลผลิตทางการเกษตรตรงจากเกษตรกรกว่า 1,400 ครัวเรือน จากทั้ง 4 ภูมิภาคทั่วประเทศ รวมผลผลิตที่รับซื้อตรงจากเกษตรกรกว่า 1,820 ตัน เพื่อส่งมอบผักสดคุณภาพสูง ปลอดภัย ในราคาที่เอื้อมถึง ให้ลูกค้าของเราทุกวัน เราได้ทำงานร่วมกับเกษตรกรอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การวางแผนการเพาะปลูก การควบคุมคุณภาพผลิตผล ตลอดจนการเก็บเกี่ยว และการขนส่ง โดยใช้หลักการการตลาดนำการผลิต สนับสนุนให้เกษตรกรทั่วประเทศมีอาชีพที่มั่นคง และรายได้ที่เป็นธรรม ยั่งยืน และสามารถวางแผนได้
“โลตัสมีแผนงานที่ชัดเจนในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี เราจะยังคงมุ่งมั่นทำงานร่วมกับผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทยที่เป็นรากฐานสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยอย่างต่อเนื่อง โดยจะทำงานร่วมกันกับพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และพัฒนาศักยภาพ พร้อมต่อยอดการเป็น ‘แพลตฟอร์มแห่งโอกาส’ ให้แก่ผู้ประกอบการ SME และเกษตรกรไทย ให้มีรากฐานที่มั่นคงและสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน” นายสมพงษ์กล่าว