วันนี้ (28 ธ.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 64 ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี บริษัทบอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ฉลองครบรอบ 30 ปี เปิดตัว “Anniversary Blends” เบลนด์กาแฟใหม่ 3 รสชาติ ร่วมออกบูทในงาน THAILAND COFFEE FEST 2021 มหกรรมกาแฟที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และร่วมแบ่งปันประสบการณ์ “ความเป็นมืออาชีพ” (Profession) ในฐานะผู้ผลิตและจัดจำหน่ายกาแฟรายใหญ่ที่ให้ความสำคัญของตลาดกาแฟไทยที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง มีการพัฒนาด้านกลยุทธ์ที่เน้นการปรับตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและลูกค้า
คุณอุษาพรรณ อินทีวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร (CEO) บริษัทบอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “อย่างแรกคือเรามีกาแฟเบลนด์ใหม่เรียกว่า Anniversary Blends ฉลองครบ 30 ปี 3 เบลนด์ซึ่งมีรสชาติที่กลมกล่อมมากขึ้นและมีกลิ่นหอมที่น่าประทับใจ โดยคัดเมล็ดกาแฟชั้นดีจากประเทศเอธิโอเปีย ปานามา ลาว และกาแฟไทยจากเชียงใหม่ เพื่อสนับสนุนเกษตรกรชาวไทย
ต้นปีหน้าเราจะมี Flagship Store แห่งใหม่ที่เป็นมากกว่าโชว์รูมสินค้า เราได้ผสานโซนคาเฟ่ในรูปแบบ Specialty Bar จากกาแฟ Craze Café และเพิ่มศูนย์การเรียนรู้ให้ความรู้ลูกค้าอย่างต่อเนื่อง และเจาะลึกยิ่งขึ้นในส่วนของการปรับตัว เรามุ่งเน้นที่จะเพิ่มความหลากหลายและเข้าถึงได้ง่ายขึ้นตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อผู้บริโภคมากขึ้น เช่น กลุ่มกาแฟดริปแบ็กจากเครซคาเฟ่ กลุ่มกาแฟพร้อมดื่มแบรนด์ดังจากอิตาลี อย่างเซกาเฟรโด
ที่สำคัญ ปีนี้เราได้จับมือร่วมกับบริษัท TACC ผู้เชี่ยวชาญด้านการผลิตเครื่องดื่มและชาในการทำสูตรใหม่ๆ ร่วมกัน มาถึงเครื่องทำกาแฟ เราก็มีไลน์มาเพิ่มเติมตอบโจทย์ผู้ใช้งานในบ้านและยังเป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการเจ้าเดียวในประเทศไทยอย่างเครื่องทำกาแฟกึ่งอัตโนมัติ Carimali แบรนด์ดังจากอิตาลีและเครื่องทำกาแฟแบบพกพาไม่ใช้ไฟฟ้าอย่าง Cafflano ถัดมาในส่วนเครื่องทำกาแฟขนาดใหญ่อย่างแบรนด์ La Marzocco ซึ่งอยู่กับเรามาอย่างต่อเนื่องนานสุดถึง 16 ปี หรือ La San Marco D. Series ที่ออกรุ่นใหม่ฉลองครบรอบ 100 ปี ก็ถูกนำมาจัดแสดงในงานนี้ด้วยเช่นกัน
เราพยายามที่จะสร้างโอกาสให้ครบ ทุกความต้องการที่หลากหลายของกลุ่มลูกค้าที่ต่างกันและวัฒนธรรมใหม่ๆ ที่กำลังเกิดขึ้นในยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ เพราะอย่างที่ทราบกันดีว่าผู้ประกอบการในกลุ่ม Food service ไม่ว่าจะโรงแรม ร้านอาหารหรือคาเฟ่ต่างก็ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ที่ผ่านมาทั้งสิ้น
แต่ท้ายที่สุดเราเชื่อว่าอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่มโดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจกาแฟจะเป็นธุรกิจที่ฟื้นตัวกลับมาได้อย่างแข็งแรง จากรายงานของ Euromonitor มีการคาดการณ์ว่าในช่วงปี 2020-2025 มูลค่าของธุรกิจกาแฟในประเทศไทยจะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5% และมูลค่าร้านอาหารประเภทคาเฟ่และบาร์จะมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 13% เห็นได้ชัดว่าตัวเลขการ เติบโตนี้ยังมีโอกาสอีกมากมายนัก”
“หมอเจี๊ยบ ลลนา ก้องธรนินทร์” พรีเซ็นเตอร์กาแฟคนแรกของบอนกาแฟ มาเป็นตัวแทนของ “ความหลงใหล” (Passion) ต่อกาแฟ กล่าวว่า “การได้เริ่มทำกาแฟเปลี่ยนความคิดเราจากเมื่อก่อนที่เคยคิดว่ากาแฟก็เหมือนกันหมด เราค้นพบว่ากาแฟมีเสน่ห์ทั้งในเรื่อง การชิม การผลิต เราเริ่มอิน จากที่เริ่มจากโคลด์บรูว เราก็ไปเรียนบาริสตา ได้สนุกกับการใช้เครื่องตอนทำลาเตอาร์ต เรามีโอกาสได้ติดต่อกับทีมงานบอนกาแฟจนเป็นจุดเริ่มต้นให้เราได้กลายมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ เดี๋ยวนี้เป็นคอกาแฟที่เน้นใช้ในบ้านส่วนใหญ่ ทางบอนกาแฟมีบริการมาติดตั้งเครื่อง สอนการใช้ แนะนำเมล็ดกาแฟที่ชื่นชอบ เจี๊ยบเองเป็นคนที่ชอบศึกษา ทดลอง อยากรู้อะไรจะลงมือทำ กาแฟก็เกิดจากความอยากค้นหา กาแฟมีเสน่ห์เป็นกิจกรรมที่ต้องการความใส่ใจ และละเอียดอ่อน บางวันจะชงได้ดี หรือบางทีจะต้องมานั่งคุยปรับความเข้าใจใหม่ ซึ่งอันนี้แหละคือความสนุก เจี๊ยบเชื่อว่าคอกาแฟหลายๆ คนที่นี่ก็เป็นเหมือนกัน”
งานในปีนี้ บอนกาแฟ (ประเทศไทย) ยังชวนทุกคนมาร่วมกันทำบุญด้วยการประมูลเครื่อง “Mahlkonig X 54” รายได้มอบแก่โครงการ “Let’s Be Heroes” ของหมอเจี๊ยบที่ช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกลในชนบทและผู้ป่วยที่ขาดโอกาสเข้ารับการรักษาด้วย
บริษัท บอนกาแฟ (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ให้บริการด้านธุรกิจกาแฟแบบครบวงจรเป็นผู้ผลิต ส่งออก และผู้จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านกาแฟ รวมทั้งนำเข้าผลิตภัณฑ์ต่างๆ เครื่องทำกาแฟแบรนด์ชั้นนำจากต่างประเทศที่มีประสบการณ์มากถึง 30 ปี ปัจจุบันบอนกาแฟมี 23 สาขาทั่วประเทศและมีกลุ่มธุรกิจในเครือทั่วโลก 10 ประเทศ ยังเป็นส่วนหนึ่งของ Massimo Zanetti Beverage Group หนึ่งในบริษัทกาแฟอิตาลีรายใหญ่ที่สุดในโลก ได้รับความไว้วางใจจากลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านอาหาร สำนักงาน และกลุ่มลูกค้าที่ใช้ในบ้านเพราะบอนกาแฟให้ความสำคัญในการพัฒนากระบวนการผลิตทุกขั้นตอน