กทพ.ส่งภาพจากกล้องวงจรพร้อมหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจ หาสาเหตุตำรวจทางด่วน รถจักรยานยนต์คว่ำตกบึงมักกะสันเสียชีวิต รอข้อสรุปสอบสวนและผลชันสูตรก่อน พร้อมพิจารณาปรับปรุงทางด่วนและสิ่งอำนวยความสะดวก
วันที่ 23 ธ.ค. 2564 นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พร้อมด้วย นายดำเกิง ปานขำ รองผู้ว่าการฝ่ายปฏิบัติการ กทพ. และ พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 2 กก.2 บก.จร. (หัวหน้าสถานีด่วน 2) แถลงข่าวถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทางด่วนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เหตุเกิดเมื่อคืนวันที่ 21 ธ.ค. 2564 โดยพบรถจักรยานยนต์พลิกคว่ำบนทางด่วนมหานครขั้นที่ 2 ขณะที่ร่างเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วงตกลงไปในน้ำบริเวณบึงมักกะสัน
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการ กทพ. เปิดเผยว่า กทพ.และสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ได้นิ่งนอนใจในเหตุดังกล่าว ซึ่งกทพ.ในฐานะเจ้าของพื้นที่ได้ประสานข้อมูลหลักฐานกับตำรวจไปทั้งหมด ซึ่งนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้กำชับให้ดำเนินการอย่างรอบคอบและเพื่อให้เกิดความกระจ่างไม่มีข้อสงสัย ขณะที่ประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้ประสานส่งข้อมูลให้มาที่กทพ.ด้วย ซึ่ง กทพ.ได้ส่งต่อข้อมูลให้ตำรวจไปแล้วเพื่อให้ประมวลหาสาเหตุที่แท้จริง
ส่วนสาเหตุนั้น ยังไม่สามารถบอกอะไรได้ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร จากตัวผู้ประสบเหตุหรือจากปัจจัยภายนอก อาจเป็นไปได้ทั้งหมด ขณะที่หลักฐานคลิปต่างๆ ต้องนำมาประมวลผลร่วมกัน เนื่องจากข้อมูลจากกล้องวงจรปิดมีทั้งจากกล้องบนทางด่วน และกล้องจากผู้ใช้ทางด่วน จึงต้องให้เจ้าหน้าที่สืบสวนนำทุกคลิปมาประมวลให้ชัดเจนที่สุดก่อน เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนและการดูเฉพาะบางคลิปอาจจะไม่ชัดเจน
สำหรับทางด่วนบริเวณดังกล่าวเป็นจุดแยกต่างระดับ หรืออินเตอร์เชนนั้นเป็นปัจจัยที่นำมาประกอบการพิจารณาในเรื่องนี้ด้วย โดยขณะเกิดเหตุเป็นช่วงเวลา 5 ทุ่มแล้ว มีความมืดร่วมกับความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ทั้งนี้เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมที่สุด
อย่างไรก็ตาม กทพ.มีการก่อสร้างทางด่วน และการให้บริการเป็นมาตรฐานตามหลักสากล มีหน่วยงานด้านความปลอดภัย มีการลาดตระเวนสำรวจเส้นทางตลอด และทุกครั้งที่เกิดเหตุจะมีการรายงาน วิเคราะห์สาเหตุเบื้องต้น รายงานตามลำดับชั้นตลอด และมีความพยายามในการแก้ไขจุดอ่อนต่างๆ ซึ่งกรณีนี้ขอให้สรุปสาเหตุที่แท้จริงก่อน จากนั้นจะพิจารณาแก้ไข เช่น อาจต้องเพิ่มแสงสว่างมากขึ้นไปอีก เป็นต้น อย่างไรก็ตามจุดนี้แม้จะเป็นโค้งอินเตอร์เชน แต่ไม่ใช่จุดที่เกิดอุบัติเหตุบ่อยแต่อย่างใด
ด้าน พ.ต.ท.ประสิทธิ์ วิรัตยาภรณ์ รอง ผกก.งานศูนย์ควบคุมจราจรด่วน 2 กก.2 บก.จร. กล่าวว่า ปัจจุบันคดีมีความคืบหน้าพอสมควร ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการตรวจพิสูจน์เบื้องต้น ทั้งรถจักรยานยนต์ที่เกิดเหตุและสถานที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานและเจ้าหน้าที่จาก บก.จร. กองกำกับการ 5 โดยยังอยู่ระหว่างการสรุปจากพยานหลักฐานที่ได้ เพื่อส่งให้พนักงานสอบสวนอีกครั้ง
ทั้งนี้ ตำรวจได้ประสานกับ กทพ.ในเรื่องข้อมูลจากกล้องวงจรปิดตั้งแต่คืนวันเกิดเหตุทันที โดยเป็นข้อมูลจากกล้องวงจรปิดก่อนเกิดเหตุประมาณ 30 นาที และหลังเกิดเหตุ 30 นาที เพื่อตรวจสอบรถคันอื่น ที่ผ่านในช่วงเวลาก่อนหน้าและหลังเพื่อประมวลรถที่เกี่ยวข้อง โดยเบื้องต้นภาพจากกล้องวงจรปิดจับได้เป็นช่วงก่อนจุดเกิดเหตุ แต่จุดเกิดเหตุยังไม่มีข้อมูล รวมถึงได้รับความร่วมมือจากประชาชนผู้ใช้ทางในการส่งคลิปวิดีโอให้ อย่างไรก็ตามหากประชาชนท่านใดมีข้อมูลเพิ่มเติมสามารถส่งให้ตำรวจได้
สำหรับสาเหตุยังไม่สามารถสรุปได้ว่าเกิดจากตำรวจ หรือมีคู่กรณีทำให้เกิดเหตุ ส่วนที่รถจักรยานยนต์มีรอยเฉี่ยวชนนั้นเนื่องจากเป็นรถที่ใช้อยู่แล้ว จึงยังไม่ทราบว่ารอยดังกล่าวเกิดก่อนหน้ามาแล้วหรืออย่างไร ส่วนผลที่ตรวจออกมาว่ามีรอยเฉี่ยวชนก็ยังบอกไม่ได้ว่า เป็นรอยอะไร ขอให้รอผลจากพิสูจน์หลักฐานกลางว่าเป็นรอยเก่าหรือรอยใหม่ อย่างไร เพื่อความชัดเจน ว่ามีการเฉี่ยวชนมีผู้กระทำให้เกิดเหตุหรือเป็นการเกิดอุบัติเหตุเอง
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากกรณีดังกล่าวจะมีการพิจารณา ห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้นทางด่วนหรือไม่ ผู้ว่าฯกทพ.กล่าวว่า บนทางด่วนห้ามรถจักรยานยนต์ขึ้นใช้ทางอยู่แล้ว แต่มีข้อยกเว้นกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ถือเป็นการปฏิบัติภารกิจ วันนี้อยากให้สังคมมั่นใจว่าจะพยายามหาสาเหตุที่แท้จริง และให้ความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง และพยายามแก้ปัญหาและป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก