ผู้จัดการรายวัน360 - “นกหงส์” เดินหน้าขยายธุรกิจฮาร์เบอร์แลนด์ สนามเด็กเล่นในร่ม เต็มที่ วางแผนปีหน้าผุดอีกไม่ต่ำกว่า 6 สาขา ล่าสุดก่อนสิ้นปีเปิดสาขาที่ 14 ที่ไอคอนสยาม โมเดลเมกาขนาดใหญ่
นายปราการ นกหงส์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาร์เบอร์แลนด์ กรุ๊ป จำกัด ตระกูลดังของจังหวัดชลบุรี และเป็นเจ้าของตึกคอม เปิดเผยว่า “ตั้งแต่บริษัทฯ เริ่มเปิดให้บริการฮาร์เบอร์แลนด์ สนามเด็กเล่นในร่ม สาขาแรกในปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นมา ที่พัทยา ฮาร์เบอร์แลนด์ได้รับการตอบรับจากกลุ่มเป้าหมายเป็นอย่างดี จึงทำให้บริษัทฯ ได้ขยายสาขาทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด แม้สถานการณ์โควิดจะทำให้ฮาร์เบอร์แลนด์ต้องปิดให้บริการเป็นระยะ แต่เพราะความเชื่อมั่นที่กลุ่มลูกค้าที่เป็นครอบครัว รวมถึงเชื่อมั่นในศักยภาพของไอคอนสยาม ในฐานะแลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา บริษัทฯ จึงได้ตัดสินใจลงทุนเปิด เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ สาขาไอคอนสยาม ถือเป็นสนามเด็กเล่นในร่มแห่งที่ 9 ในเขตกรุงเทพมหานคร และเป็นสาขาที่ 14 ของฮาร์เบอร์แลนด์”
โดยที่นี่เป็นสาขาภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ล่าสุดเป็นแห่งแรก บริษัทฯ เห็นศักยภาพของไอคอนสยามที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มครอบครัวได้เป็นอย่างดี จึงเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับฮาร์เบอร์แลนด์ในการเข้าถึงและขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายให้มากขึ้น
นายปัญจภัทร อังคสุวรรณ ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์ เปิดเผยว่า สนามเด็กเล่นฮาร์เบอร์แลนด์มี 3 โมเดล คือ 1. แบบมินิ พื้นที่ไม่ใหญ่ จะเปิดบริการในโรงแรม เช่น โรงแรมบัลโคนี คอร์ทยาร์ด และโรงแรมบัลโคนี่ ซีไซด์ ศรีราชา 2. แบบมาตรฐาน คือ ฮาร์เบอร์แลนด์ พื้นที่ต่ำกว่า 4,000 ตารางเมตร และ 3. แบบเมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ พื่้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร เช่นที่พัทยา เมกาบางนา เซ็นทรัลเวสต์เกต และที่ไอคอนสยาม
สาขาล่าสุดที่ไอคอนสยามนี้ถือเป็นโมเดลใหญ่ที่เรียกว่า “เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ The Family Happy Moments” จะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 ธันวาคม 2564 สาขานี้เป็นสนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ติดอันดับโลก ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของกลุ่มครอบครัวในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ที่มาในธีม “Little Thailand” สนุกที่เดียว เที่ยวได้ทั่วไทย
ด้านในจะแบ่งเป็นโซนเครื่องเล่นต่างๆ ทั้งหมด 4 โซน ได้แก่ 1. HarborLand “ฮาร์เบอร์แลนด์” สนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่มาตรฐานความปลอดภัยจากผู้ผลิตชั้นนำจากยุโรป โดยภายในโซนฮาร์เบอร์แลนด์ได้แบ่งเครื่องเล่นออกเป็นโซนย่อยต่างๆ เพื่อให้เหมาะสมกับช่วงอายุและความสูงของเด็กๆ ครอบคลุมทุกช่วงวัย 2. JumpZ “จัมพ์ซ” สนามแทรมโพลีนแบบ Extreme รูปแบบใหม่ 3. Harbor Inflatable “ฮาร์เบอร์ อินแฟลตเทเบิล” เครื่องเล่นเป่าลมขนาดใหญ่ นำเข้าจาก UK (ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้) และ 4. AdventureLand “แอดเวนเจอร์แลนด์” ท้าทายไปกับการปืนไต่เชือกผจญภัยไปตามฐานต่างๆ เพื่อทดสอบความกล้าหาญของเด็กๆ บนที่สูง (ซึ่งจะเปิดให้บริการในเร็วๆ นี้) รวมถึงมีร้านอาหารให้บริการอีกด้วย
ในปีหน้า (2565) ทางกลุ่มวางแผนจะขยายสาขาเพิ่มทุกโมเดลรวมกันไม่ต่ำกว่า 6 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ซึ่งโมเดลเมกาลงทุนเฉลี่ยหลัก 100-200 ล้านบาท เช่น เดอะมอล์ท่าพระ และกรุงเทพตอนเหนือ เป็นต้น ซึ่งมีแลนด์ลอร์ดหลายแห่งสนใจเจรจาให้เราไปเปิดบริการ รวมทั้งอาจจะมีแนวโน้มในการร่วมทุนบางแห่งด้วย เช่น อุดรธานี อุบลราชธานี เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น จากปัจจุบันมี 14 สาขาที่เปิดบริการแล้ว (แบ่งเป็นในกรุงเทพฯ 9 สาขา และในต่างจังหวัด 5 สาขา)
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีสถานการณ์โควิด-19 ระบาด รวมทั้งขณะนี้ยังมีสายพันธุ์ใหม่โอมิครอน ระบาดอีกก็ตาม แต่ก็ยังเดินหน้าลงทุนขยายสาขาต่อเนื่อง เนื่องจากมองว่าภายใต้สถานการณ์ที่เด็กต้องเรียนออนไลน์อาจจะทำให้เกิดความเครียดและขาดทักษะทางด้านสังคมไปเพราะอยู่กับบ้านตลอด สนามเด็กเล่นในร่มเป็นส่วนหนึ่งที่จะเข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าวได้บ้าง ส่วนพ่อแม่ก็ต้องการที่จะให้เด็กมีที่ได้พักผ่อนแบบปลอดภัย รวมทั้งกลุ่มเป้าหมายหลักคือ บีกับเอ ยังเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อและต้องการที่จะแสวงหาสิ่งที่ดีให้แก่ลูกมากขึ้น
อีกทั้งบริษัทมีความมั่นใจในเรื่องของมาตรการป้องก้นโควิดและสุขอนามัยเป็นอย่างดีตามที่ภาครัฐกำหนดอย่างเข้มงวด ทั้งเรื่องการฉีดวัคซีน การทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ การได้รับวัคซีนของพนักงาน เป็นต้น
ในช่วงที่เกิดโควิดรุนแรงช่วงที่ผ่านมาไม่สามารถเปิดบริการได้เต็มที่เหมือนธุรกิจภาพรวมทั่วไปที่ส่งผลกระทบเช่นกัน ที่ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหายไปจากมาตรการล็อกดาวน์ต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 90% หรือแม้แต่ลูกค้าองค์กร เช่น สกูลทัวร์ ก็หายไปเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ตลาดเริ่มกลับมามากขี้นแล้วตั้งแต่มีการคลายล็อกดาวน์เมื่อตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในช่วงเทศกาลปีใ่หม่ เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ มอบโปรโมชันสุดคุ้มต้อนรับเทศกาลปีใหม่ กับ “Happy Special Package HarborLand ICONSIAM” ลูกค้าสามารถซื้อบัตรเข้าเล่นในราคา 3,790 บาท โดยจะได้รับบัตร HarborLand 1 Pass จำนวน 10 ใบ โดยบัตร 1 ใบใช้ได้เฉพาะเด็กหรือผู้ใหญ่เพียง 1 ท่าน (1 เด็ก หรือ 1 ผู้ใหญ่) โดยผู้สนใจสามารถซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ได้ที่ไลน์ @haborland หรือคลิก https://lin.ee/102yIIi และหน้าเคาน์เตอร์ เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ ชั้น 6 ไอคอนสยาม ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 64-31 ม.ค. 65
นายสุพจน์ ชัยวัฒน์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด กล่าวว่า “3 ปีที่ผ่านมา ไอคอนสยามได้สร้างปรากฏการณ์อย่างยิ่งใหญ่ และนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดของไทยและของโลกอย่างต่อเนื่อง
ตอกย้ำความเป็นอภิมหาโครงการเมืองสัญลักษณ์แห่งความรุ่งโรจน์ของไทยริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา
จนเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่สำคัญของโลก (global destination) ที่คนมากมายต้องการมาเยี่ยมเยือน ทำให้เราเป็นตัวเลือกอันดับแรกของแบรนด์ชื่อดังที่สุดของโลกมาเปิดเป็นแฟลกชิปสโตร์มากมาย
และยังมีร้านค้าต่างๆ ที่มาเปิดร้านเป็นครั้งแรกในประเทศไทยอีกด้วย
ไอคอนสยามมุ่งสร้างปรากฏการณ์และนำเสนอความแปลกใหม่อยู่เสมอภายใต้วิสัยทัศน์ The Best of Thailand Meets The Best of The World ล่าสุดกับการเปิดพื้นที่สร้างประสบการณ์ “เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์” โดยตั้งอยู่ที่ชั้น 6 ไอคอนสยาม มีขนาดพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร เป็นสนามเด็กเล่นในร่มขนาดใหญ่ระดับโลก ซึ่งสาขานี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการและสร้างความสุขให้แก่เด็กๆ ได้อย่างแน่นอน
“การมาเปิดของเมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ ครั้งนี้คาดว่าจะสร้างประสบการณ์ความสุขและความสนุกให้แก่เด็กๆ และเหล่าผู้ปกครองในช่วงส่งท้ายปลายปีใหม่นี้อย่างแน่นอน และยังปลอดภัยด้วยการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่กรมควบคุมโรคได้แนะนำไว้อย่างเคร่งครัด โดยยึดหลัก Covid-Free Setting Protocol ที่ครอบคลุมทุกส่วน ทั้งพนักงานร้านค้า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน การดูแลความสะอาดเครื่องเล่น และการทำความสะอาดในพื้นที่ส่วนกลางของศูนย์ฯ และมาตรการสำหรับลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการ ทั้งนี้ ขอให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า เมกา ฮาร์เบอร์แลนด์ สาขาไอคอนสยาม จะให้บริการที่ดีที่สุด เพื่อให้ทุกคนมีความสุขและสร้างรอยยิ้มตลอดช่วงเทศกาลแห่งความสุขปลายปีที่จะมาถึงนี้” นายสุพจน์กล่าว
