ส.อ.ท.กางยอดผลิตรถยนต์ พ.ย.แตะ 1.65 แสนคัน สูงสุดรอบ 12 เดือน ดัน 11 เดือนแรกยอดผลิตทะลุ 1.53 ล้านคัน ขณะที่การส่งออก 11 เดือนแรกเกินเป้าหมายแล้วที่ 857,887 คัน มั่นใจทั้งปีทะลุเป้าที่ตั้งไว้ 1.6 ล้านคัน คาดปีนี้มูลค่าส่งออกรวมกลุ่มรถยนต์ จักรยานยนต์และชิ้นส่วนแตะ 1 ล้านล้านบาท ขณะที่ตั้งเป้าผลิตปี 2565 อยู่ที่ 1.7-1.8 ล้านคันแต่ต้องลุ้นโอมิครอน สถานการณ์ชิป
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดการผลิตรถยนต์รวมในเดือนพฤศจิกายน 2564 มีทั้งสิ้น 165,353 คัน สูงสุดในรอบ 12 เดือน ส่งผลให้ภาพรวม 11 เดือนแรกของปีนี้ (ม.ค.-พ.ย. 64) มี 1,531,337 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 19.26% ดังนั้นเป้าหมายที่ตั้งไว้ว่าการผลิตรถยนต์ปี 2564 ที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ในระดับ 1,600,000 คันจึงมั่นใจว่าจะทะลุเป้าหมายแน่นอนแล้ว และในปี 2565 คาดว่าการผลิตรถยนต์รวมจะอยู่ที่ระดับ 1,700,000-1,800,000 คัน แต่ยังคงต้องติดตามการแพร่ระบาดของไวรัสกลายพันธุ์โอมิครอนและสถานการณ์การขาดแคลนชิปใกล้ชิด
“ปีนี้เราตั้งเป้าการผลิตรถยนต์ไว้ 1,600,000 คัน แบ่งเป็นจำหน่ายในประเทศ 750,000 คัน ส่งออก 850,000 คัน เหลือเดือนธ.ค.ยอดขายในประเทศน่าจะได้ตามเป้าเพราะมียอดจองจากงานมหกรรมยานยนต์หรือ Motor Expo 2021 ที่จะเพิ่มเข้ามาอีก 31,583 คัน ส่วนการส่งออก 11 เดือนแรกปีนี้ 857,887 คันเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้ว ดังนั้น ธ.ค.นี่ได้อีกกว่า 90,000 คัน ส่งออกปีนี้น่าจะแตะระดับ 930,000 คัน ก็จะทำให้ผลิตรวมอยู่ในระดับราว 1,690,000 คันเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ชัดเจน ส่วนปี 65 มองการผลิตไว้ที่ 1,700,000-1,800,000 คัน แยกเป็นเพื่อจำหน่ายในประเทศ 800,000-850,000 คัน ส่งออก 900,000-950,000 คัน” นายสุรพงษ์กล่าว
สำหรับการผลิตรถยนต์ในเดือน พ.ย. 64 ที่เพิ่มขึ้นจาก ต.ค. 64 ถึง 7.35% เนื่องจากเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกถึง 90,112 คัน มีสัดส่วนคิดเป็น 54.50% ของยอดผลิตรถยนต์รวม แต่การผลิตรถยนต์ พ.ย. 64 เมื่อเทียบกับ พ.ย. 63 ยังคงลดลง 4.12% ส่วน 11 เดือนปีนี้ผลิตเพื่อส่งออกได้ 878,938 คัน เท่ากับ 57.40% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 34.85% ขณะที่การผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ พ.ย. 64 อยู่ที่ 75,241 คัน คิดเป็น 45.50% ของยอดการผลิตทั้งหมดลดลงจาก พ.ย. 63 คิดเป็น 21.24% ส่วน 11 เดือนแรกผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 652,399 คัน คิดเป็น 42.60% ของยอดการผลิตทั้งหมด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 3.19%
ทั้งนี้ ยอดขายรถยนต์ในประเทศเดือน พ.ย.ื64 มีทั้งสิ้น 71,716 คัน ลดลงจากเดือนเดียวกันในปีที่แล้ว 3.2% แต่เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคม 64 คิดเป็น 11.25% สูงสุดในรอบ 8 เดือน เพราะประชาชนเชื่อมั่นรายได้ในอนาคตมากขึ้นจากการผ่อนคลายการล็อกดาวน์เพิ่มขี้นเรื่อยๆ การเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เป็นต้น ส่งผลยอดขายรวม 11 เดือนแรกปี 64 มีทั้งสิ้น 668,520 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2.8%
ขณะที่การส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป พ.ย. 64 มีทั้งสิ้น 98,829 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 32.60% และเพิ่มขึ้นจากต.ค. 64 คิดเป็น 21.15% มีมูลค่าการส่งออกรถยนต์ 57,737.82 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดือน พ.ย. 63 คิดเป็น 35.30% สูงสุดในรอบ 8 เดือน โดยการส่งออกเพิ่มขึ้นทุกตลาดเพราะประเทศไทยเป็นฐานการผลิตรถกระบะที่ส่งออกไปกว่า 100 ประเทศ จึงส่งออกได้เพิ่มขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก รวม 11 เดือนแรกปีนี้ส่งออกรถยนต์สำเร็จรูป 857,887 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 28.55% โดยเมื่อรวมมูลค่าการส่งออกทั้งรถยนต์ รถจักรยานต์และชิ้นส่วน 11 เดือนแรกอยู่ที่ 818,762 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อน 38.99% จึงคาดว่าปี 2564 การส่งออกรวมจะอยู่ที่ระดับ 1,000,000 ล้านบาทซึ่งถือเป็นสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2561