นายกรัฐมนตรีมอบรางวัลอุตสาหกรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 (The Prime Minister's Industry Award 2021) แก่ผู้ประกอบการ 63 รายที่มีความเป็นเลิศด้านอุตสาหกรรม พร้อมขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมสู่ความมั่งคั่ง และยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม (The Prime Minister's Industry Award 2021) ว่า ปีนี้เป็นปีที่ 29 ที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดพิธีมอบรางวัลอุตสาหกรรม เพื่อประกาศเกียรติคุณและเชิดชูเกียรติผู้ประกอบการอุตสาหกรรมทุกระดับที่มีความเป็นเลิศในแต่ละด้านตามประเภทรางวัลที่กำหนด โดยได้ดำเนินการตามแนวนโยบายรัฐบาลภายใต้การบริหารของท่านนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการส่งเสริมและสนับสนุนภาคอุตสาหกรรมของประเทศให้มีศักยภาพในทุกด้าน ทั้งในด้านพลังงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อลดต้นทุนของผู้ประกอบการ ยกระดับคุณภาพมาตรฐานสินค้าให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในเวทีการค้าโลก
นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้ภาคอุตสาหกรรมให้ความสำคัญต่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม มีความรับผิดชอบต่อสังคม เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างสันติและมีความสุข สามารถสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ชุมชน โดยในระยะที่ผ่านมากระทรวงอุตสาหกรรมได้เข้าไปแก้ไขปัญหาผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนในหลายๆ พื้นที่ เพื่อเสริมสร้างให้เกิดความเข้าใจในการดำเนินงานของทุกฝ่ายอย่างถูกต้อง รวมทั้งยังเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม โดยใช้ความรู้ด้านเทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อให้การประกอบกิจการสามารถพัฒนาต่อไปได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวเพิ่มเติมว่า รางวัลอุตสาหกรรมในปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 15 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล รางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 9 ประเภท ได้แก่ 1) ประเภทการเพิ่มผลผลิต 2) ประเภทการรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม 3) ประเภทการบริหารความปลอดภัย 4) ประเภทการบริหารงานคุณภาพ 5) ประเภทการจัดการพลังงาน 6) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน 7) ประเภทอุตสาหกรรมศักยภาพ 8) ประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม
9) ประเภทเศรษฐกิจหมุนเวียน และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น 5 ประเภท ได้แก่
1) ประเภทการบริหารจัดการ 2) ประเภทการพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ 3) ประเภทการจัดการเทคโนโลยีเชิงนวัตกรรม 4) ประเภทบริหารธุรกิจสู่สากล และ 5) ประเภทการจัดการโลจิสติกส์และโซ่อุปทาน มีสถานประกอบการสมัครเข้ารับการคัดเลือกจำนวนทั้งสิ้น 332 ราย แบ่งเป็นรางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 6 ราย และรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นทั้ง 14 ประเภท รวม 326 ราย ทุกรายผ่านการพิจารณาคัดเลือกจากคณะทำงานแต่ละประเภทรางวัลอย่างเข้มข้น แม้จะอยู่ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งผู้ประกอบการที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกต้องผ่านหลักเกณฑ์ที่เข้มงวดหลายด้าน โดยมีผู้ได้รับรางวัลจำนวนทั้งสิ้น 63 ราย ได้แก่ รางวัลอุตสาหกรรมยอดเยี่ยม จำนวน 1 รางวัล ซึ่งคัดเลือกจากสถานประกอบการที่เคยได้รับรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่นมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ประเภท และเป็นสถานประกอบการที่มีการพัฒนาศักยภาพในการแข่งขันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง มีมาตรฐานการผลิตในระดับสากล และมีความเป็นเลิศทั้งในด้านการผลิต การตลาด และการลงทุน มีการนำความรู้ เทคโนโลยี และนวัตกรรมสมัยใหม่มาใช้ในการเพิ่มมูลค่าให้ธุรกิจของตนเอง และสามารถสร้างการพัฒนาให้แก่อุตสาหกรรมในภาพรวมอย่างชัดเจน ซึ่งผู้ได้รับรางวัลคือ บริษัท มาบตาพุดโอเลฟินส์ จำกัด ในเอสซีจี เคมิคอลส์ ในส่วนรางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 9 ประเภท มีผู้ได้รับรางวัล 37 ราย และรางวัลอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อมดีเด่น 5 ประเภท มีผู้ได้รับรางวัล 25 ราย สามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ได้รับรางวัลได้ที่ https://industryaward.industry.go.th/th หรือ สแกน QR Code นี้
จากการดำเนินงานคัดเลือกรางวัลอุตสาหกรรมที่ผ่านมา กระทรวงอุตสาหกรรมได้รับความชื่นชมเป็นอย่างมากจากสถานประกอบการ ทั้งที่ได้รับรางวัล และพลาดการรับรางวัลว่า เกณฑ์การพิจารณาคัดเลือกช่วยให้สถานประกอบการพัฒนาศักยภาพของหน่วยงานได้อย่างต่อเนื่อง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารจัดการภายในองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น รางวัลประเภทการจัดการพลังงาน ช่วยให้สถานประกอบการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเป็นอย่างมาก หรือรางวัลประเภทความรับผิดชอบต่อสังคม ได้สร้างให้สังคมชุมชนโดยรอบสถานประกอบการมีสิ่งแวดล้อมที่ดี ชุมชนสามารถอยู่ร่วมกับโรงงานได้อย่างสันติและมีความสุข เป็นต้น ถึงแม้จะไม่ได้รับรางวัลแต่ประโยชน์ที่เกิดขึ้นจากคำแนะนำของผู้เชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ได้สร้างความประทับใจให้สถานประกอบการ ถือเป็นผลตอบแทนที่มีคุณค่าไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าการได้รับรางวัล
“รางวัลอุตสาหกรรม เป็นรางวัลแห่งเกียรติยศที่ทรงคุณค่า สมควรมอบให้แก่ผู้ประกอบการที่ผ่านการพิจารณาคัดเลือก เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ โดยกระทรวงอุตสาหกรรมมุ่งหวังให้มีสถานประกอบการสมัครเข้ารับการพิจารณาคัดเลือกให้มากยิ่งขึ้นไปทุกๆ ปี เพื่อให้เกิดการแข่งขันในการพัฒนามาตรฐานในด้านต่างๆ เพื่อยกระดับขีดความสามารถและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้า ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการเจริญเติบโตของประเทศโดยรวมต่อไป” ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรมกล่าว