“พาณิชย์” เคาะเก็บอากรเอดี “ทินฟรี ทินเพลต” เหล็กใช้ทำกระป๋องบรรจุอาหาร เป็นเวลา 5 ปี นับตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 หลังไต่สวนพบมีการทุ่มตลาดจริง ทำผู้ผลิตในประเทศเสียหาย แต่ให้ยกเว้นการเก็บ 6 เดือนบรรเทาภาระต้นทุนของผู้ใช้ หวั่นอาหารกระป๋องต้นทุนพุ่งจนต้องขึ้นราคาขาย กระทบผู้บริโภค ขีดแข่งขันด้านส่งออกลดลง และกระทบจ้างงานภาคเกษตร ประมง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ว่า เมื่อเร็วๆ นี้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้ลงนามในประกาศคณะกรรมการพิจารณาการทุ่มตลาดและการอุดหนุน (ทตอ.) เรื่อง การตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยโครเมียมทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินฟรี) ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เกาหลีใต้ และสหภาพยุโรป โดยให้เรียกเก็บอากรตอบโต้การทุ่มตลาด (เอดี) จากการนำเข้าสินค้าดังกล่าว ซึ่งเป็นเหล็กใช้ทำกระป๋องบรรจุอาหาร ภายใต้พิกัดอัตราศุลกากรปี 2560 จำนวน 8 พิกัด ในอัตรา 0% ของราคาซี ไอ เอฟ (ราคาสินค้ารวมค่าขนส่งและประกันภัย) เป็นระยะเวลา 6 เดือน นับตั้งแต่วันที่ประกาศนี้มีผลบังคับใช้ หรือตั้งแต่วันที่ 12 พ.ย. 2564
ทั้งนี้ ยังลงนามในประกาศเรื่อง การตอบโต้การทุ่มตลาดสินค้าเหล็กแผ่นชุบหรือเคลือบด้วยดีบุกทั้งชนิดเป็นม้วนและไม่เป็นม้วน (ทินเพลตที่ใช้ทำกระป๋องบรรจุอาหาร) ที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน เกาหลีใต้ ไต้หวัน และสหภาพยุโรป โดยให้เรียกเก็บอากรเอดีทินเพลตภายใต้พิกัดปี 2560 จำนวน 15 พิกัด ในอัตรา 0% เป็นเวลา 6 เดือนเช่นกัน แต่ไม่รวมทินเพลตที่ผ่านการเคลือบ Lacquering หรือ Laminating หรือ Printing
สำหรับการเรียกเก็บอากรเอดีสินค้า 2 รายการ ทตอ.ได้เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการเอดีตามที่ผู้ผลิตสินค้าของไทยได้ร้องเรียน และพบว่ามีการนำเข้ามาโดยทุ่มตลาด (ตั้งราคาขายในประเทศไทยต่ำกว่าราคาที่ขายในประเทศต้นทาง) จริง และทำให้ผู้ผลิตสินค้าของไทยได้รับความเสียหายจากการนำเข้า เช่น ส่วนแบ่งตลาด ยอดขาย กำไรลดลง แต่เหล็กดังกล่าวมีผู้ใช้จำนวนมาก หากเรียกเก็บอากรเอดีจะทำให้ต้นทุนของผู้ใช้ เช่น อุตสาหกรรมอาหารสูงขึ้น จนอาจต้องปรับขึ้นราคาสินค้า และกระทบต่อผู้บริโภคได้ รวมถึงกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารกระป๋องของไทยในตลาดโลก และกระทบต่อการจ้างงานในภาคเกษตรและประมง รวมถึงอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง ทตอ.จึงได้ยกเว้นเก็บอากรเอดี 6 เดือนเพื่อบรรเทาภาระให้แก่ผู้ใช้ และผู้บริโภค
อย่างไรก็ตาม เมื่อครบระยะเวลายกเว้น 6 เดือนแล้ว ทตอ.กำหนดให้เรียกเก็บอากรเอดีในสินค้าทินฟรีที่มีแหล่งกำเนิดจากจีน อัตรา 4.53-24.73% ของราคาซี ไอ เอฟ จากเกาหลีใต้ 3.94-17.06% และจากยุโรป 18.52% โดยให้เรียกเก็บเป็นเวลา 5 ปี หรือจนถึงเดือน พ.ย. 2569 หลังจากนั้นจะพิจารณาทบทวนใหม่ หากพบว่ายังมีการทุ่มตลาดอีกก็จะคงการเก็บอากรเอดีต่อไป ส่วนทินเพลตจากจีนให้เก็บ 2.45-17.46% ของราคาซีไอเอฟจากเกาหลีใต้ 8.71-22.67% จากไต้หวัน 4.28-20.45% และยุโรป 5.82% โดยให้เรียกเก็บเป็นเวลา 5 ปี จนถึงเดือน พ.ย. 2569 และจะทบทวนใหม่เช่นกัน
