สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ แถลงการจัดงาน Thailand MEGA-Event & Festival Partnership Meeting เพื่อพบปะสร้างเครือข่ายระหว่างผู้จัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ (MEGA Event) และงานเทศกาล กับหน่วยงานจากจังหวัดต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล หรือ “Festival Economy” เป็นกลไกสำคัญในการสร้างมรดกใหม่ (New Legacy) ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งสร้างความยั่งยืนให้กับเมืองและชุมชนผ่านการจัดงานเทศกาลในครั้งนี้
เมื่อวันที่ 3 ธ.ค. สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ แถลงการจัดงาน Thailand MEGA-Event & Festival Partnership Meeting เพื่อพบปะสร้างเครือข่ายระหว่างผู้จัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ (MEGA Event) และงานเทศกาล กับหน่วยงานจากจังหวัดต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างงานเทศกาลในพื้นที่ โดยความร่วมมือของสมาคมพันธมิตรอีก 5 สมาคม ดังนี้ สมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA), สมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA), นายกสมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA), สมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (CAPT) และสมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์วิชาชีพสื่อบันเทิงไทย (TECNA) ภายใต้การสนับสนุนของทีเส็บ ณ ห้อง VIBHAVADEE BALLROOM C โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว
ภายในงานได้รับเกียรติจาก คุณอุปถัมป์ นิสิตสุขเจริญ นายกสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงาน (EMA), คุณบุญเพิ่ม อินทนปสาธน์ นายกสมาคมการค้าส่งเสริมการจัดมหกรรมและเทศกาลนานาชาติไทย (TIEFA), คุณรัฐ จิโรจน์วณิชชากร นายกสมาคมการค้าผู้จัดงานกีฬามวลชนไทย (TMPSA), ผศ.ปวิตร มหาสารินันทน์ รองนายกสมาคมการค้าส่งเสริมอุตสาหกรรมศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย (CAPT) คุณปิยะพงษ์ หมื่นประเสริฐดี กรรมการสมาคมเครือข่ายผู้สร้างสรรค์วิชาชีพสื่อบันเทิงไทย (TECNA) ผู้ประกอบการ, ผู้จัดงานเทศกาล และแขกผู้มีเกียรติจากหน่วยงานของจังหวัดต่างๆ
คุณนิชาภา ยศวีร์ รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือทีเส็บ ขอต้อนรับทุกท่านด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่งเข้าสู่งาน Thailand MEGA-Event & Festival Partnership Meeting เพื่อพบปะสร้างเครือข่ายระหว่างผู้จัดงานอีเวนต์ขนาดใหญ่ (MEGA Event) และงานเทศกาล กับหน่วยงานจากจังหวัดต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสร้างงานเทศกาลในพื้นที่ โดยความร่วมมือของสมาคมพันธมิตรอีก 5 สมาคมที่กล่าวไปข้างต้นภายใต้การสนับสนุนของทีเส็บ
“ทีเส็บได้เล็งเห็นถึงโอกาสในการพัฒนาเมือง พัฒนาชุมชน ผ่านการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยงานเทศกาล หรือ “Festival Economy” เป็นกลไกสำคัญในการสร้างมรดกใหม่ (New Legacy) ทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และมุ่งสร้างความยั่งยืนให้แก่เมืองและชุมชนผ่านการจัดงานเทศกาล โดยกลยุทธ์ที่เลือกใช้คือ การนำอัตลักษณ์ของเมืองสะท้อนเอกลักษณ์ของผู้เข้าร่วมงานโดยเมืองมีมรดกทางภูมิปัญญาที่มีคุณค่าใช้งานเทศกาลเป็นเครื่องมือในการนำเสนอให้เข้ากับผู้ที่เข้าชม นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจในรูปแบบผสมผสาน มีการเข้าถึงที่ง่ายขึ้นและทันสมัย สร้างประสบการณ์ใหม่ให้แก่นักเดินทาง โดยในปัจจุบันตลาดของนักเดินทางเปลี่ยนไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบความสนใจของนักเดินทางเข้าร่วมงานเทศกาล (Festival Gores) ที่เปลี่ยนไป นักเดินทางรุ่นใหม่ให้ความสนใจกับทางเลือกและประสบการณ์ที่เฉพาะมากขึ้น และเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูง ดังนั้น ปริมาณการเดินทางของกลุ่มคนดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบเชิงบวกทั้งทางตรง (Direct Impact) ผลกระทบทางอ้อม (Indirect/ Induced Impacts) ต่อระบบเศรษฐกิจ (Economic Impact) ของเมืองเจ้าภาพและชุมชนโดยรอบ” คุณนิชาภากล่าว
รองผู้อำนวยการ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ กล่าวต่อว่า “ทีเส็บวางเป้าหมายระยะยาวของนโยบาย Festival Economy นั้นคือ การสร้าง “หนึ่งเมือง หนึ่งงานเทศกาลนานาชาติ (1 City 1 International Festival)” ภายใน 5 ปี เพื่อเพิ่มมูลค่า ยกระดับ และส่งออกงานเทศกาลที่เกิดจากสิ่งที่เป็นอัตลักษณ์ของเมืองให้เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก โดยมีเป้าหมายในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว คือ การกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งเสริมให้เมืองเป็นจุดหมายปลายทางในการจัดงานเทศกาล และการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืนผ่านการสร้างความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างเมือง ชุมชน และหน่วยงานเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในพื้นที่”
“สุดท้ายนี้ ทีเส็บหวังเป็นอย่างยิ่งว่างาน Thailand MEGA-Event & Festival Partnership Meeting ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจสร้างสรรค์การจัดงานในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการได้ทำความรู้จักและสร้างเครือข่ายระหว่างผู้จัดงานอีเวนต์และงานเทศกาลกับตัวแทนหน่วยงานในจังหวัดต่างๆ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านจะได้รับความรู้และแรงบันดาลใจเพื่อต่อยอดไปสู่การสร้างสรรค์งานเทศกาลในรูปแบบหลากหลายต่อไป ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจ การพัฒนาเมืองและชุมชนของท่านอย่างยั่งยืนต่อไป” คุณนิชาภากล่าวทิ้งท้าย