xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์”เคาะจ่ายส่วนต่างข้าว งวด 7 ชดเชย 5 ชนิด ลุ้นรับเงินหลัง ครม. เพิ่มเพดานก่อหนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์”เคาะจ่ายส่วนต่างประกันรายได้ข้าว ปีการผลิต 2564/65 งวดที่ 7 ชดเชย 5 ชนิด แต่จ่ายน้อยลง หลังราคาข้าวขยับขึ้น เผย “ข้าวเปลือกเจ้า” ได้รับเงินสูงสุด ตามด้วย “ข้าวเปลือกเหนียว” ระบุเงินค้างจ่ายตั้งแต่งวดที่ 3-7 จะเข้าบัญชี หลังจาก ครม.อนุมัติเพิ่มเพดานก่อหนี้

นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการกำกับดูแลและกำหนดเกณฑ์กลางอ้างอิงโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว เปิดเผยว่า วันที่ 26 พ.ย.2564 ได้อนุมัติราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการชดเชยส่วนต่างราคาตามโครงการประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวปี 2564/65 รอบที่ 1 งวดที่ 7 โดยมีมติจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรผู้ปลูกข้าวปีการผลิต 2564/65 ที่ระบุวันที่คาดว่าจะเก็บเกี่ยวตั้งแต่วันที่ 19-25 พ.ย.2564 จำนวน 5 ชนิด ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ข้าวเปลือกเจ้า และข้าวเปลือกเหนียว แต่การจ่ายส่วนต่างเริ่มน้อยลงจากงวดก่อนหน้า หลังราคาข้าวเปลือกปรับตัวสูงขึ้น

สำหรับราคาเกณฑ์กลางอ้างอิงและการจ่ายเงินส่วนต่าง งวดที่ 7 ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 11,089.76 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,910.24 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ ราคา 10,644.44 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,355.56 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี ราคา 9,574.25 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 1,425.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า ราคา 7,903.19 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 2,096.81 บาท และข้าวเปลือกเหนียว ราคา 8,183.24 บาทต่อตัน ชดเชยตันละ 3,816.76 บาท

โดยเกษตรกรจะได้รับเงินส่วนต่างสำหรับงวดที่ 7 สูงสุด ดังนี้ ข้าวเปลือกหอมมะลิ 57,743.36 บาท ข้าวเปลือกหอมมะลินอกพื้นที่ 53,688.96 บาท ข้าวเปลือกหอมปทุมธานี 35,643.75 บาท ข้าวเปลือกเจ้า 62,904.30 บาท และข้าวเปลือกเหนียว 61,068.16 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปัจจุบันการจ่ายเงินส่วนต่างให้กับเกษตรกร ยังไม่เป็นไปตามหลักการที่กำหนดไว้ว่าเมื่อมีการคำนวณส่วนต่างในแต่ละงวดแล้ว ธ.ก.ส. จะจ่ายเงินเข้าบัญชีเกษตรกรภายใน 3 วันทำการ เนื่องจากวงเงินที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติไว้ ได้ใช้จ่ายส่วนต่างสำหรับงวดที่ 1-2 และงวดที่ 3 ได้บางส่วน ทำให้การจ่ายเงินส่วนต่างงวดที่ 3 , 4 , 5 , 6 และ 7 ต้องรอเงินจากรัฐบาล โดยล่าสุดคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ได้ขยายเพดานการก่อหนี้ตามมาตรา 28 ของ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังภาครัฐ จากเดิม 30% เป็น 35% เป็นระยะเวลาชั่วคราว 1 ปี ทำให้มีวงเงินในการก่อหนี้เพิ่มเติมได้อีกประมาณ 1.55 แสนล้านบาท ที่จะนำมาใช้จ่ายส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันที่ 30 พ.ย.2564




กำลังโหลดความคิดเห็น