xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” แจ้งข่าวดี ครม.เตรียมเคาะเพิ่มเพดานก่อหนี้ ช่วยมีเงินจ่ายประกันรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” เผย ครม.เตรียมเคาะเพิ่มเพดานการก่อหนี้จาก 30% เป็น 35% ช่วยมีเงินจ่ายชดเชยส่วนต่างในโครงการประกันรายได้ข้าว ยันจะเดินหน้าผลักดันราคาเพื่อลดภาระงบประมาณ และเดินหน้าลดต้นทุนให้ชาวนาต่อเนื่อง ทั้งดูแลราคาปุ๋ย เมล็ดพันธุ์

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการพบปะสมาชิกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย เพื่อประชุมหารือเรื่องปัจจัยการผลิตและติดตามโครงการประกันรายได้เกษตรกร ที่ชุมชนหมู่ 6 ก้าวหน้า แขวงคลอง 12 เขตหนองจอก กรุงเทพฯ ว่า ได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันเรื่องมาตรการต่างๆ ในการช่วยเหลือชาวนาและเกษตรกร ซึ่งเป็นนโยบายที่ตนมีความตั้งใจเช่นเดียวกับรัฐบาลในการช่วยชาวนา วันนี้มีการหารือกันเรื่องประกันรายได้เกษตรกรผู้ปลูกข้าว ได้แจ้งให้ทราบว่านโยบายประกันรายได้ผู้ปลูกข้าวปี 3 จะเดินหน้าต่อไป ซึ่งเริ่มดำเนินการแล้ว สำหรับข้าวมีการจ่ายเงินส่วนต่างทั้งหมด 33 งวด จ่ายแล้ว 2 งวด ส่วนงวดที่ 3-33 กำลังรอการขยายเพดานวินัยการคลังจากไม่เกิน 30% เพิ่มขึ้นเป็น 35% คาดว่าอังคารหน้าจะมีการพิจารณา จะช่วยให้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จ่ายเงินส่วนต่างเข้าบัญชีเกษตรกรผู้ปลูกข้าวได้โดยเร็วต่อไป

ทั้งนี้ เพื่อเป็นการลดภาระงบประมาณ กระทรวงพาณิชย์จะเดินหน้าผลักดันราคาข้าวให้สูงขึ้น โดยตั้งแต่เข้ามาดูแล เคยทำราคาข้าวเปลือกแตะตันละ 10,000 บาทเมื่อ 2 ปีที่ผ่านมา แต่ช่วงนี้ไม่ปกติ ราคาจริงลงมา ราคาข้าวแห้ง วันนี้เกวียนละ 8,000 บาทแล้ว ไม่ใช่ 5,000 บาท อย่างที่พยายามพูดว่าซื้อมาม่าได้ซองเดียว ไม่เป็นความจริง ส่วนพืชเกษตรตัวอื่น ราคาดีทุกตัว ยางก้อนถ้วยสูงกว่ารายได้ที่ประกัน มันสำปะหลังตอนนี้กิโลกรัมละ 2.60-2.80 บาท ปาล์มน้ำมันประกันที่กิโลกรัมละ 4 บาท ตอนนี้ 8-9 บาทแล้ว และข้าวโพดประกันรายได้ที่กิโลกรัมละ 8.50 บาท แต่ราคาตลาด 9-10 บาท

นายจุรินทร์กล่าวว่า สำหรับมาตรการลดต้นทุนให้กับชาวนา กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการในเรื่องปุ๋ย โดยทำแล้ว 2 ส่วน คือ 1. การจัดโครงการปุ๋ยราคาถูกจำหน่ายให้กลุ่มเกษตรกร สหกรณ์ วิสาหกิจชุมชน จัดปุ๋ยราคาพิเศษเตรียมไว้ 4,500,000 กระสอบ ขายไปแล้ว 2,000,000 กว่ากระสอบ โดยเกษตรกรต้องรวมกลุ่มกันไปขอซื้อที่สหกรณ์จังหวัด สหกรณ์อำเภอ เกษตรจังหวัด เกษตรอำเภอ หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ โดยขอให้เร่งช่วยกันซื้อเพราะราคาจะถูกกว่าท้องตลาด 20 -50 บาทต่อกระสอบ และ 2. ได้ลงนามถึงหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับงบประมาณโดยตรงในการของบกลางให้มีเงินมาช่วยชดเชยปุ๋ยให้ลดราคาลงมา ซึ่งจะช่วยให้นอกจากกลุ่มเกษตรกรแล้ว เกษตรกรทั่วไปสามารถซื้อในท้องตลาดได้ โดยจะช่วยกดราคาปุ๋ยในท้องตลาดประมาณกระสอบละ 50 บาท

ส่วนเรื่องเมล็ดพันธุ์ ซึ่งเกษตรกรต้องการเมล็ดพันธุ์ที่ตรงตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะข้าวพันธุ์พื้นนุ่ม ได้บรรจุไว้ในยุทธศาสตร์ข้าวไทยที่บังคับใช้แล้วตั้งแต่ปี 2563-67 มีเป้าหมายเพิ่มข้าวพันธุ์ใหม่ 12 พันธุ์ ใน 5 ปี ประกอบด้วย พันธุ์พื้นแข็ง 4 พันธุ์ พื้นนุ่ม 4 พันธุ์ ข้าวหอม 2 พันธุ์ ข้าวโภชนาการสูง 2 พันธุ์ คาดว่าสำหรับปีนี้จะมีข้าวพันธุ์ใหม่เพิ่มขึ้นประมาณ 3 พันธุ์ และจะขึ้นทะเบียนเป็นข้าวพันธุ์ใหม่ต่อไป และที่เกษตรกรอยากเพิ่มข้าวเป็นข้าวมูลค่าสูง ต้องการเน้นการจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ขณะนี้มีข้าว GI มีอยู่ถึง 18 รายการ จากสินค้า GI ทั้งหมด 152 ราย ซึ่งจะสนับสนุนต่อไป หากพื้นที่ไหนสามารถปรับปรุงเป็น GI ได้ กระทรวงพาณิชย์พร้อมที่จะให้การสนับสนุน

นายปราโมทย์ เจริญศิลป์ นายกสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า ชาวนาพอใจโครงการประกันรายได้มาก ในภาวะที่ข้าวราคาตกก็มีการชดเชยส่วนต่าง และไม่มีการทุจริต เงินที่ออกจากรัฐบาลยิงตรงเข้าเกษตรกรโดยตรง ขณะเดียวกัน ก็มีมาตรการเสริมเพื่อยกระดับราคาข้าว

นายธีรสินทร์ ธนชวโรจน์ เลขาธิการสมาคมชาวนาและเกษตรกรไทย กล่าวว่า โครงการประกันรายได้ดำเนินการมาถึงปีที่ 3 แล้ว แม้จะมีติดขัดบ้าง แต่เชื่อว่ารัฐบาลจะแก้ไขปัญหาได้ และต้องขอบคุณนายจุรินทร์ ที่ได้เดินหน้าผลักดันราคาข้าว และผลักดันมาตรการคู่ขนานที่จะช่วยดึงราคาให้สูงขึ้น รวมทั้งมีมาตรการดูแลต้นทุนให้กับชาวนา


กำลังโหลดความคิดเห็น