BEM ดีเดย์ 1 ธ.ค.นี้ขายคูปอง ลดค่าผ่านทางศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ ราคาเดิม ช่วยลดค่าครองชีพ เริ่มใช้ได้ตั้งแต่ 15 ธ.ค. 64 เป็นเวลา 1 ปี คาดสูญรายได้ 102 ล้านบาท ด้าน”ง "กทพ." เผยปีใหม่ 65 ให้ใช้ฟรีทางด่วน 2 สาย รวม 5 วัน ตั้งแต่ 30 ธ.ค. 64 - 3 ม.ค.ื65
วันที่ 22 พ.ย. 2564 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม แถลงข่าวกรณีการปรับอัตราค่าผ่านทางทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานคร โดยมีนายชยธรรม์ พรหมศร ปลัดกระทรวงคมนาคม นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) และนายพงษ์สฤษดิ์ ตันติสุวณิชย์กุล กรรมการบริหาร บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เข้าร่วม
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า กระทรวงคมนาคม กทพ.ได้ดำเนินการตามนโยบายของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในการหาแนวทางในการลดภาระแก่ผู้ใช้บริการทางพิเศษ ในช่วงที่ภาวะค่าครองชีพสูงจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19) โดยได้มีการเจรจาเอกชนจนได้ข้อยุติ ซึ่ง BEM พร้อมสนับสนุนนโยบายกระทรวงคมนาคม โดยจะจำหน่ายคูปองในราคาค่าผ่านทางเดิม ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 -30 พฤศจิกายน 2565 ณ อาคารด่านทั้ง 9 แห่ง และสามารถใช้คูปองได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 15 ธันวาคม 2565 เป็นระยะเวลา 1 ปี
โดยผู้ใช้บริการทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ สามารถซื้อคูปอง และใช้ผ่านทางได้ในช่วงเวลาดังกล่าว โดยคูปองจะจำหน่ายเป็นเล่ม เล่มละ 20 ใบ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564-30 พฤศจิกายน 2565 เวลา 05.00-22.00 น. ณ อาคารด่านทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ 9 ด่าน ได้แก่ ด่านฯ บางซื่อ 1 ด่านฯ กำแพงเพชร 2 ด่านฯ สะพานพระราม 7 ด่านฯ บางกรวย ด่านฯ บางพลัด ด่านฯ บางบำหรุ ด่านฯ บรมราชชนนี ด่านฯ ตลิ่งชัน และด่านฯ ฉิมพลี สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ศูนย์ควบคุมทางพิเศษสายศรีรัช-วงแหวนรอบนอกฯ โทร. 0-2555-0255 ดังนี้
- คูปองสำหรับรถ 4 ล้อ เล่มละ 1,300 บาท ราคาจำหน่าย 1,000 บาท (ประหยัดได้ 300 บาท)
- คูปองสำหรับรถ 6-10 ล้อ เล่มละ 2,100 บาท ราคาจำหน่าย 1,600 บาท (ประหยัดได้ 500 บาท)
- คูปองสำหรับรถมากกว่า 10 ล้อ เล่มละ 3,000 บาท ราคาจำหน่าย 2,300 บาท (ประหยัดได้ 700 บาท)
สำหรับการปรับอัตราค่าผ่านทางครั้งนี้เป็นการปรับขึ้นทุกๆ 5 ปี ซึ่งครบกำหนดในวันที่ 15 ธันวาคม 2564 โดยปรับค่าผ่านทางจากอัตรา 50/80/115 บาท เป็น 65/105/150 บาท สำหรับรถประเภท 4 ล้อ รถประเภท 6-10 ล้อ และรถมากกว่า 10 ล้อ ซึ่งเป็นไปตามสัญญาสัมปทานการลงทุนในการออกแบบก่อสร้าง บริหาร และการบำรุงรักษาโครงการทางพิเศษฯ กับ กทพ.
"เอกชนพร้อมให้การร่วมมือ โดยได้พิจารณาข้อกฎหมายและได้ทำหนังสือแสดงเจตนาให้ความช่วยเหลือลดภาระให้ประชาชนมาที่กระทรวงคมนาคม ซึ่งจะไม่มีผลต่อสัญญา โดยเอกชนได้จัดทำคูปอง ใช้เป็นค่าผ่านทาง อายุใช้งาน 1 ปี เป็นคูปองสำหรับผู้จ่ายค่าผ่านทางเป็นเงินสด ซึ่งทางเอกชนคาดว่าจะสูญเสียรายได้จากการจัดทำคูปองราคาเดิมประมาณ 102 ล้านบาท/ปี"
@ขยายอีก 1 ปี ลดค่าผ่านทาง 10 บาท ด่านพระราม 9-1 รถจากด่วน 2 ส่วน D เข้า "ฉลองรัช"
นายศักดิ์สยามกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ยังมีการขยายเวลาการให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษที่ด่านพระราม 9-1 (ฉลองรัช) ซึ่งเป็นด่านในทางพิเศษฉลองรัชที่เชื่อมต่อรับรถที่มาจากทางพิเศษศรีรัช ส่วน D ทั้งฝั่งอโศกและฝั่งศรีนครินทร์ เปิดให้บริการเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2543 ซึ่ง กทพ.ได้มีแนวทางที่จะให้ส่วนลดค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษฉลองรัชแก่ผู้ใช้ทางพิเศษ จำนวน 10 บาทต่อเที่ยว สำหรับรถทุกประเภทที่มาจากทางพิเศษศรีรัช ส่วน D เพื่อเข้าสู่ทางพิเศษฉลองรัชที่ด่านเก็บค่าผ่านทางพิเศษพระราม 9-1 (ฉลองรัช) โดยมีการให้ส่วนลดค่าผ่านทางตั้งแต่เริ่มเปิดให้บริการเป็นต้นมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เพื่อส่งเสริมให้มีการเดินทางโดยใช้โครงข่ายทางพิเศษเชื่อมต่อกันอย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นการช่วยลดภาระค่าผ่านทางพิเศษของผู้ใช้ทางพิเศษในการเดินทางข้ามระบบบนทางพิเศษ
ทั้งนี้ ในปี 2565 กทพ.ยังคงให้ส่วนลดค่าผ่านทาง จำนวน 10 บาทต่อเที่ยว จากอัตรา 40/60/80 บาท สำหรับรถยนต์ 4 ล้อ รถยนต์ 6-10 ล้อ และรถยนต์มากกว่า 10 ล้อ เป็นอัตรา 30/50/70 บาท ออกไปอีก 1 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2565 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ซึ่งจะเป็นอีกมาตรการหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือผู้ใช้ทางพิเศษในช่วงเวลานี้
@ปีใหม่ 65 ใช้ฟรีทางด่วน 2 สายรวม 5 วัน ตั้งแต่ 30 ธ.ค.64 - 3 ม.ค. 65
นอกจากนี้ ในช่วงเทศกาลวันหยุดต่อเนื่องเทศกาลปีใหม่ 2565 กทพ.ได้ยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) และทางพิเศษกาญจนาภิเษก (บางพลี-สุขสวัสดิ์) ตามที่รัฐบาลประกาศวันหยุดพิเศษทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องติดต่อกัน 4 วัน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน โดยจะเริ่มยกเว้นค่าผ่านทางของทางพิเศษทั้ง 2 สายทาง ตั้งแต่เวลา 00.01 น. ของวันที่ 30 ธันวาคม 2564 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 3 มกราคม 2565 รวมทั้งสิ้นจำนวน 5 วัน โดย กทพ.คาดว่าจะสูญเสียรายได้ประมาณ 36 ล้านบาท