xs
xsm
sm
md
lg

ขสมก.จัดรถ 2,783 คันบริการประชาชน “วันลอยกระทง”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ขสมก.จัดรถ 2,783 คัน พร้อมขยายเวลาเดินรถในเส้นทางที่วิ่งผ่านสถานที่จัดงานวันลอยกระทง ศุกร์ที่ 19 พ.ย. 2564 ออกไปอีก 1 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวก และปลอดภัย

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2564 ตรงกับวันลอยกระทงประจำปี 2564 ซึ่งหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น ไอคอนสยาม, เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์, สะพานพระราม 8, จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์, มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน, มหาวิทยาลัยรามคำแหง หัวหมาก และสวนสาธารณะ 30 แห่งในกรุงเทพฯ เป็นต้น ได้จัดงานลอยกระทง เพื่ออนุรักษ์
สืบสาน และส่งเสริมประเพณีลอยกระทงที่ทรงคุณค่า ภายใต้แนวคิด “ลอยกระทงวิถีใหม่ สืบสานวัฒนธรรมไทย” 
 
ขสมก.จึงเตรียมจัดเดินรถโดยสารจำนวน 2,783 คัน รวม 18,357 เที่ยว พร้อมขยายเวลาเดินรถในเส้นทางที่วิ่งผ่านสถานที่จัดงานวันลอยกระทง ประจำปี 2564 ออกไปอีก 1 ชั่วโมง เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัยสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่จะเดินทางไปเที่ยวงานดังกล่าว

มาตรการความปลอดภัยด้านพนักงานประจำรถ
1. กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้พนักงานเก็บค่าโดยสารคอยดูแลการขึ้น-ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย

2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์ ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้งก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถและพนักงานเก็บค่าโดยสารสวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร

3. ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็ดสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี ตามมาตรฐานคุณภาพบริการ ISO 9001 : 2015

4. จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสาร บริเวณสถานที่จัดงานวันลอยกระทงที่สำคัญๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น-ลงรถของผู้ใช้บริการ

ด้านพนักงานประจำรถ
1. เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน

2. ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวเช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่างๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น

3. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” บริเวณหลังเบาะที่นั่ง และบริเวณผนังด้านข้าง ภายในรถโดยสาร สำหรับให้ผู้ใช้บริการสแกนผ่านโทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนเพื่อเก็บข้อมูลการเดินทาง กรณีตรวจพบผู้ติดเชื้อใช้บริการรถโดยสารคันเดียว และเวลาเดียวกันกับผู้ใช้บริการจะมีการแจ้งเตือนผ่านระบบ SMS ว่าผู้ใช้บริการมีความเสี่ยง ให้รีบไปพบแพทย์

4. ติดตั้ง QR Code แอปพลิเคชัน “หมอชนะ” บริเวณผนังด้านข้างภายในรถโดยสาร เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการ ในการใช้โทรศัพท์แบบสมาร์ทโฟนดาวน์โหลดแอปพลิเคชันดังกล่าว

5. ติดตั้งป้ายข้อความ “เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย” “เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย” “รถคันสุดท้าย” บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน

ด้านผู้ใช้บริการ
1. ผู้ใช้บริการจะต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร
2. ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น
3. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรสแกน QR Code แอปพลิเคชัน “ไทยชนะ” บนรถโดยสาร เพื่อเช็กอินเมื่อขึ้นรถ และเช็กเอาต์ก่อนลงจากรถ สำหรับผู้ถือบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ของ ขสมก.ทุกประเภท ควรลงทะเบียนบัตรที่ www.bmta.co.th เพื่อให้บัตรดังกล่าวสามารถเช็กอิน-เช็กเอาต์
โดยอัตโนมัติ เมื่อนำบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์มาแตะที่เครื่อง EDC เพื่อชำระค่าโดยสาร
4. เพื่อประโยชน์ของผู้ใช้บริการ ควรดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” เพื่อตอบแบบสอบถามประเมินความเสี่ยงการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และลงทะเบียน
5. ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด
6. ขอความร่วมมือผู้ใช้บริการชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต-เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทกต์เลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโมบายล์แบงกิ้ง เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อโรคฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น