อสมท โชว์ผลงานไตรมาส 3 ปี 2564 มีรายได้ 392 ลบ. ธุรกิจโทรทัศน์และธุรกิจวิทยุยังเป็นธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ เดินหน้าเร่งสร้างรายได้จากธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ พัฒนาต่อยอดสินทรัพย์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ควบคู่การบริหารค่าใช้จ่ายต่อเนื่องเพื่อสร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน
รศ.เกษมศานต์ โชติชาครพันธุ์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บมจ.อสมท รายงานงบการเงินไตรมาส 3 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2564 ผลการดำเนินงานของบริษัทในช่วงไตรมาส 3 ปี 2564 มีกำไรต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน เป็นกำไรสำหรับงวด 3 เดือน (ก.ค.-ก.ย. 2564) จำนวน 21 ล้านบาท และกำไรสำหรับงวด 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2564) มีกำไรสุทธิ 100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญจากช่วงเดียวกันของปี 2563 (ขาดทุนสุทธิ 372 ล้านบาท) เป็นผลจากความสามารถในการหารายได้ที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจโทรทัศน์ และธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ ที่มีการปรับปรุงการบริหารต้นทุน มุ่งเน้นการบริหารค่าใช้จ่ายด้าน Content โดยร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำ ทำให้โครงสร้างค่าใช้จ่ายเปลี่ยนแปลงและเห็นผลในปี 2564 จากค่าใช้จ่ายที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ
รศ.เกษมศานต์กล่าวต่อไปว่า สำหรับธุรกิจการให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลนั้น ล่าสุดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ได้รับอนุญาตจาก สำนักงาน กสทช.ให้ดำเนินโครงการทดลองส่งสัญญาณโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลเพื่อส่งเสริมยุทธศาสตร์ประเทศด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ภายใต้ชื่อ “ช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7” โดยออกอากาศผ่านโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลของ บมจ.อสมท แบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เริ่ม ก.ค. 2564-ม.ค. 2565) และเริ่มสะท้อนรายได้เข้ามาในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา มีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นจากเดิม และเสริมความมั่นคงด้านรายได้จากธุรกิจ การให้บริการโครงข่ายโทรทัศน์ภาคพื้นดินระบบดิจิทัลของ บมจ.อสมท
ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการโครงข่ายฯ จำนวน 4 ช่องรายการ ซึ่งเป็นช่องรายการโทรทัศน์ดิจิทัลแบบความคมชัดสูง (High Definition) จำนวน 2 ช่องรายการ ได้แก่ ไทยรัฐทีวี ช่องหมายเลข 32 ดำเนินการโดย บริษัท ทริปเปิ้ลวี บรอดคาสท์ จำกัด และ MCOT HD ช่องหมายเลข 30 ดำเนินการโดย บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และช่องรายการโทรทัศน์ดิจิทัลแบบความคมชัดปกติ (Standard Definition) จำนวน 2 ช่องรายการ คือ สถานีโทรทัศน์รัฐสภา ช่องหมายเลข 10 ดำเนินการโดย สำนักงานเลขานุการสภาผู้แทนราษฎร และล่าสุดคือช่อง T Sports 7 ช่องหมายเลข 7 มั่นใจว่าด้วยศักยภาพความพร้อมด้านเทคโนโลยีและบุคลากรของ บมจ.อสมท จะพร้อมสนับสนุนการออกอากาศของช่อง T Sports 7 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ บมจ.อสมท ได้เตรียมความพร้อมในการร่วมประมูลคลื่นวิทยุตามที่สำนักงาน กสทช.ประกาศว่าจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2565 ซึ่งธุรกิจวิทยุถือเป็นธุรกิจที่แข็งแกร่งและสร้างรายได้ให้ บมจ.อสมท เป็นอย่างมาก โดยพร้อมเข้าสู่กระบวนการประมูลใบอนุญาตประกอบกิจการวิทยุฯ ตาม Roadmap ของสำนักงาน กสทช.
“บมจ.อสมท ให้ความสำคัญต่อการสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจเดิม โดยมุ่งพัฒนาเนื้อหารายการให้ตอบสนองความต้องการของผู้ชม ผู้ฟังมากขึ้น พร้อมปรับปรุงการนำเสนอรายการข่าวเพื่อช่วยตรวจสอบข้อเท็จจริงให้แก่สังคม ยึดหลัก “เป็นผู้นำเสนอเนื้อหาที่น่าเชื่อถือ เที่ยงตรง และรวดเร็ว” และเพิ่มเนื้อหาความบันเทิงที่สร้างสรรค์ พร้อมร่วมพันธมิตรมุ่งสู่ “สื่อที่ดีของสังคม ที่มีส่วนร่วมสร้างสังคมที่ดี” เดินหน้าสร้างแหล่งรายได้จากธุรกิจดิจิทัลและธุรกิจใหม่ พัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทั้งหมดให้เกิดประโยชน์สูงสุด สร้างผลกำไรอย่างยั่งยืน” รศ.เกษมศานต์กล่าวสรุป