ผู้จัดการรายวัน360-ผู้ประกอบการสถานบันเทิง 311 ร้าน รวมตัวยื่นจดหมายถึงนายกฯวอนผู้ว่าฯ อนุญาตจำหน่ายแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร นำร่อง 17 จังหวัดท่องเที่ยว
พร้อมปลดล็อคเปิดสถานบันเทิงทั่วประเทศช่วงไฮ ซีซั่น สอดคล้องกับแผนเปิดประเทศร่วมเสนอมาตรฐานความปลอดภัย และมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการ
กลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิงในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และกลุ่มจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลัก คือ ชลบุรี เชียงใหม่ ภูเก็ต รวม 311 ร้าน ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และผู้อำนวยการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ณ ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้พิจารณาการอนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร ในเขตพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และอนุญาตให้เปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 เป็นต้นไป พร้อมข้อเสนอมาตรฐานการดำเนินกิจการปลอดภัย (COVID-Free Setting) สำหรับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ และมาตรการช่วยเหลือและเยียวยาผู้ประกอบการ
โดยตัวแทนผู้ประกอบการในเขตพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลักกล่าวว่า นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 กว่า 19 เดือน ผู้ประกอบการร้านอาหาร สถานบันเทิง และสถานประกอบการได้แก่ ผับ บาร์ คาราโอเกะ รวมถึงพนักงานหลายหมื่นคน ได้ปฏิบัติตามมาตรการของภาครัฐอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด แม้ว่าจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรง ต่อเนื่อง ยาวนาน ต่อทั้งธุรกิจ พนักงาน และครอบครัว จนส่งผลให้ผู้ประกอบการกว่าร้อยละ 40-50 จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างถาวร เนื่องจากขาดรายได้และขาดสภาพคล่อง
อย่างไรก็ตาม จากคำประกาศเจตนารมย์ของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับแผนการเปิดประเทศและการผ่อนคลายกิจการกิจกรรม ที่ครอบคลุมการพิจารณาการอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และการพิจารณาอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร รวมถึงเปิดกิจการสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 นั้น จะเกิดขึ้นได้ภายใต้มาตรการด้านความปลอดภัยด้านสาธารณสุขที่เหมาะสม ถือเป็นปัจจัยสำคัญในการผลักดันให้เกิดการฟื้นฟูของภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและการบริการ โดยกระตุ้นการจ้างงานและการกระจายรายได้ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งถือเป็นไฮซีซั่น (High Season) ของภาคอุตสาหกรรมดังกล่าว
ทางกลุ่มผู้ประกอบการจึงรวมตัวกันเพื่อยื่นจดหมายเสนอต่อพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในประเด็นและมาตรการต่างๆ ดังนี้
• ให้ผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอนุญาตให้จำหน่ายและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหารในเขตพื้นที่ที่กำหนดเป็นพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด (พื้นที่สีฟ้า) ตามที่ปรากฏในคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 และอนุญาตให้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านอาหาร และเปิดกิจการสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2564 โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละพื้นที่ จะดำเนินการร่วมกับผู้ประกอบการเพื่อกำกับดูแลและควบคุมให้เป็นไปตามมาตรการข้อเสนอมาตรการปลอดภัย (COVID-Free Setting) สำหรับสถานบริการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ
• จัดหาชุดตรวจ Antigen Test Kit (ATK) โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือในราคาที่ถูกที่สุดแก่สถานประกอบการเพื่อให้พนักงานทำการตรวจด้วยตนเองอย่างน้อยทุก 7 วัน
• จัดลำดับความสำคัญในระดับต้นสำหรับการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น (booster) หรือวัคซีนที่พัฒนารุ่นใหม่ เช่น กลุ่ม Protein Subunit และ mRNA เป็นต้น แก่ผู้ประกอบการและพนักงานของสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่จะเกิดขึ้นในปี 2565 , เมื่อมีหลักฐานประจักษ์ว่ามีผู้ติดเชื้อเข้ามาใช้บริการในสถานประกอบการ หรือมีพนักงานเป็นผู้ติดเชื้อ ให้พิจารณาปิดสถานประกอบการชั่วคราวเป็นเวลา 3 วัน หรือตามเกณฑ์ที่ใช้ในกิจกรรมอื่น เพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในสถานประกอบการอย่างเข้มข้น และกักตัว (Home Isolation) เฉพาะผู้สัมผัสเสี่ยงสูงเป็นเวลา 14 วัน ,
• จัดหาสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ โดยมีระยะปลอดดอกเบี้ย พร้อมผ่อนคลายเงื่อนไขในการพิจารณาสินเชื่อเพื่อเสริมสร้างสภาพคล่องแก่สถานประกอบการในระยะเร่งด่วน
• มอบหมายผู้ว่าราชการจังหวัดหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละจังหวัดบูรณาการการการรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับทราบ ตระหนักรู้ และปฏิบัติตามมาตการป้องกันตนเองขั้นสูงสุด (Universal Prevention) อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการการ์ดตก
โดยกลุ่มผู้ประกอบการในเขตพื้นกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงในจังหวัดที่เป็นพื้นที่เศรษฐกิจและการท่องเที่ยวหลัก ยินดีให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการของรัฐบาลและศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ในการประกอบกิจการ เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจ ส่งเสริมความมั่นคงทางสังคมควบคู่กับความปลอดภัยด้านสาธารณสุขอย่างสมดุลและยั่งยืนต่อไป