นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า บรรยากาศการท่องเที่ยวในภูเก็ตกลับมาคึกคักมาก ตามโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox) โดยตั้งแต่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต สังเกตได้ว่ามีจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามาใช้บริการมากเพิ่มขึ้น ทั้งขาเข้าและขาออก ขณะเดียวกัน เมื่อสำรวจบรรยากาศโดยรอบแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัดภูเก็ต พบเห็นกิจการร้านค้ากลับมาเปิดให้บริการเกือบในระดับปกติด้วย
ทั้งนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) รายงานว่า จำนวนนักท่องเที่ยวภายใต้โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม – 21 ตุลาคม 2564 สะสม 113 วัน จำนวน 53,120 คน มียอดเงินใช้จ่ายแล้ว 3,192 ล้านบาท
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้ลงนามคำสั่งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ที่ 18/2564 เรื่อง พื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 เพิ่มจังหวัดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว 17 จังหวัด เริ่ม 1 พฤศจิกายนนี้
นอกจากนี้ ศบค. ยังได้ออกข้อกำหนด ฉบับที่ 36 ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ "ยกเลิกเคอร์ฟิว" ในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด มีผลตั้งแต่เวลา 23.00 น. ของวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะส่งผลบวกต่อบรรยากาศทั้งการเปิดประเทศและการท่องเที่ยวภายในประเทศ
อย่างไรก็ตาม ศบค. ยังคงห้ามจัดกิจกรรมที่มีความเสี่ยงต่อการแพร่โรคในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว รวมทั้งสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ยังคงปิดให้บริการ โดยระหว่างนี้ รอให้หน่วยงานและผู้ประกอบการเตรียมความพร้อมเพื่อผ่อนคลายมาตรการต่อไป
นายธนกร ย้ำว่า โครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ การเปิดประเทศ และเพิ่มพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยว ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ นายกรัฐมนตรีมีความตั้งใจสร้างโอกาสด้านการท่องเที่ยว เพื่อพี่น้องประชาชน เอกชน สามารถกลับมาทำมาหากิน เปิดกิจการได้อีกครั้ง สิ่งสำคัญทุกคนต้องช่วยกันปฏิบัติตามมาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด