วันนี้ (28 ต.ค.64 ) นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย ผู้บริหารจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นางสาวนพวรรณ กาญจนะวรรณ รองผู้ว่าการบริหารการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) นายวิภู พิวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และผู้บริหารจาก บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) นายทรงพล พึ่งผัน ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติ ภาค 3 ลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดปทุมธานี ตรวจติดตามสถานการณ์น้ำท่วม พร้อมมอบถุงยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด บรรเทาความเดือดร้อนประชาชนเบื้องต้น รับฟังปัญหาความเดือดร้อนและให้กำลังใจผู้ประสบภัยน้ำท่วม
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาวน์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและมีความห่วงใยประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วมในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้สั่งทุกหน่วยงานเข้าพื้นที่ประสบภัยให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างบูรณาการ ตั้งแต่การช่วยเหลือเยียวเบื้องต้นโดยการมอบถุงยังชีพ ซึ่งประกอบด้วยเครืองอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การสาธารณสุข เข้าไปให้ความช่วยเหลือเรื่องสุขภาพ ผู้มีโรคประจำตัว ผู้ป่วยติดเตียง ตลอดจนผู้สูงอายุ รวมถึงหน่วยงานของการไฟฟ้าให้เข้าไปติดตามเรื่องความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าต่อบ้านเรือนที่ได้รับผลกระทบน้ำท่วมสูงที่อาจจะเกิดอันตรายจากไฟฟ้าช๊อต ไฟฟ้าลัดวงจรต่างๆ รวมถึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสำรวจความเสียหายทั้งบ้านเรือน พื้นที่ประกอบอาชีพ รวมถึงความเสียหายอื่นๆ เพื่อเตรียมแผนฟื้นฟูให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้ชีวิตโดยเร็วที่สุด
“การลงพื้นที่จังหวัดนนทบุรีและปทุมธานี ในวันนี้ ถือเป็นภารกิจต่อเนื่องตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เพื่อรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ตลอดจนสิ่งที่พี่น้องประชาชนต้องการความช่วยเหลือ พร้อมนำถุงยังชีพเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็นต่อการยังชีพ จำนวน 2,000 ชุด มามอบเพื่อบรรเทาความเดือดให้กับประชาชน โดยแบ่งเป็นจังหวัดนนทบุรี จำนวน 1,000 ชุด และจังหวัดปทุมธานี จำนวน 1,000 ชุด ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการประสานกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชนอย่างเร่งด่วนต่อไป” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าว