กรมการค้าต่างประเทศคาดไตรมาสสุดท้ายไทยจะส่งออกข้าวได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 7 แสนตัน หลังข้าวไทยเป็นที่ต้องการ และได้รับแรงหนุนจากบาทอ่อนค่า สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย ทำให้มีความต้องการซื้อข้าวเพิ่มขึ้น มั่นใจทั้งปียอดส่งออกทำได้ตามเป้า 6 ล้านตัน
นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า ขณะนี้การส่งออกข้าวไทยในช่วงที่เหลือของปีนี้ มียอดคำสั่งซื้อเริ่มกลับมาอย่างต่อเนื่อง โดยจะเห็นได้จากสถิติกรมศุลกากรการส่งออกข้าวไทยกลับมาขยายตัวเป็นบวกตั้งแต่เดือน มิ.ย.-ส.ค. 2564 ที่มีอัตราการขยายตัว 25.27% โดยตลาดหลักที่ไทยส่งออกข้าวได้เพิ่มขึ้น ได้แก่ จีน ฟิลิปปินส์ แคเมอรูน มาเลเซีย โมซัมบิก และสิงคโปร์ และคาดว่าการส่งออกข้าวไทยในช่วงไตรมาสสุดท้ายจะยังขยายตัวดีต่อเนื่อง เห็นได้จากสถิติการขอใบอนุญาตส่งออกข้าวของกรมฯ ในเดือน ก.ย. 2564 ที่มีปริมาณสูงถึง 877,555 ตัน ขยายตัว 124.87% และล่าสุดเดือนต.ค. 2564 (1–18 ต.ค.) มีปริมาณ 380,234 ตัน เพิ่มขึ้น 47.11%
ทั้งนี้ การส่งออกข้าวในช่วง 8 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ส.ค.) มีปริมาณ 3.18 ล้านตัน มูลค่า 58,685 ล้านบาท และคาดว่าในปีนี้ไทยจะสามารถส่งออกข้าวได้ตามเป้าที่ปริมาณ 6 ล้านตัน เนื่องจากข้าวไทยได้รับการยอมรับด้านคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดโลก และยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลงในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมาปรับตัวอยู่ที่ระดับ 32-33 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้ขีดความสามารถในการแข่งขันด้านราคาของข้าวไทยในตลาดโลกสูงขึ้น สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งที่สำคัญได้มากขึ้น โดยเฉพาะข้าวขาวและข้าวนึ่งของไทยที่ราคาได้ปรับมาอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับข้าวจากอินเดีย และเวียดนาม
ขณะเดียวกัน ปัจจุบันสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกได้เริ่มคลี่คลาย ในแต่ละประเทศเริ่มคลายล็อกดาวน์มากขึ้น ทำให้ความต้องการซื้อสินค้าและบริการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้นตามลำดับ ซึ่งเป็นโอกาสดีที่ไทยจะเร่งผลักดันการส่งออกและขยายส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในตลาดโลกในช่วงเวลานี้ โดยผู้ส่งออกข้าวไทยต้องติดตามและประเมินสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งต้องมีการวางแผนระบบการขนส่งและระบบโลจิสติกส์ให้สอดคล้องกับต้นทุนและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย
นายกีรติกล่าวว่า การส่งออกข้าวไทยที่กลับมาฟื้นตัวดังกล่าวเป็นผลมาจากความสำเร็จจากการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่างภาคเอกชนของไทยกับกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมฯ ในฐานะหน่วยงานหลักในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ข้าวไทยด้านการตลาดต่างประเทศได้เร่งดำเนินการภายใต้หลักการ “ตลาดนำการผลิต” ซึ่งเป็นนโยบายหลักของ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ที่ได้สั่งการให้กรมฯ ร่วมกับสมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย และทูตพาณิชย์ในฐานะเซลส์แมนประเทศเร่งการเจรจาหารือเพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางการค้า และประชาสัมพันธ์ข้าวไทยกับคู่ค้าสำคัญอย่างต่อเนื่อง เช่น ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ฮ่องกง มาเลเซีย ทำให้คู่ค้าเชื่อมั่นในศักยภาพในการส่งออกข้าวคุณภาพของไทย แม้ในช่วงสถานการณ์โควิด-19 และหันมาสนใจนำเข้าข้าวจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วง 2-3 เดือนที่ผ่านมา
“กรมฯ คาดว่าจากปัจจัยบวกต่างๆ ทั้งสถานการณ์โควิดที่เริ่มคลี่คลาย ความเชื่อมั่นของผู้ซื้อในคุณภาพและมาตรฐานข้าวไทย ประกอบกับราคาข้าวไทยที่สามารถแข่งขันได้ในปัจจุบัน จะทำให้ข้าวไทยเป็นที่ต้องการของตลาดมากขึ้น โดยคาดว่าในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้จะสามารถส่งออกข้าวได้เดือนละกว่า 7 แสนตัน และทำให้การส่งออกข้าวไทยทั้งปีจะได้ตามเป้าที่วางไว้ที่ 6 ล้านตัน” นายกีรติกล่าว