บอร์ด อคส.มีมติไล่ออกยกแก๊ง 3 รายเอี่ยวทุจริตจัดซื้อถุงมือยาง 1.125 แสนล้านบาท พร้อมเรียกคืนเงินเดือน สวัสดิการย้อนหลังตั้งแต่วันทำผิด ด้านความรับผิดทางละเมิดรู้ผลภายใน ต.ค.นี้ ส่วนคดีอาญาลุ้น ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ในเร็วๆ นี้ “เกรียงศักดิ์” ลุยต่อ ตั้งกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีก 1 ชุด เอาผิดเจ้าหน้าที่ อคส.ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม
นายเกรียงศักดิ์ ประทีปวิศรุต ผู้อำนวยการองค์การคลังสินค้า (อคส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) อคส. ที่มี นายสุชาติ เตชจักรเสมา เป็นประธาน เมื่อวันที่ 12 ต.ค. 2564 ที่ผ่านมา ได้พิจารณาการลงโทษทางวินัยร้ายแรงเจ้าหน้าที่ อคส. 3 คน ได้แก่ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ พุทธิยาวัฒน์ อดีตรักษาการผู้อำนวยการ อคส., นายเกียรติขจร แซ่ไต่ และนายมูรธาธร คำบุศย์ เจ้าหน้าที่บริหารระดับ 8 ที่ร่วมกันกระทำทุจริตในโครงการจัดซื้อถุงมือยาง 500 ล้านกล่อง มูลค่า 112,500 ล้านบาท โดยมีมติให้ไล่ออกทั้งหมด ตามที่คณะกรรมการสอบสวนทางวินัยได้ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรง และตนในฐานะ ผอ.อคส.ได้ทำเรื่องเสนอให้บอร์ดพิจารณาตามขั้นตอน
ทั้งนี้ หลังจากบอร์ดมีมติเห็นชอบจะออกคำสั่งไล่ออก พ.ต.ท.รุ่งโรจน์ และสัปดาห์หน้าจะทำรายงานเสนอไปยังสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพราะตอนนี้ พ.ต.อ.รุ่งโรจน์ถูกสั่งให้ย้ายไปประจำอยู่ที่นี่ ส่วนอีก 2 คนจะออกคำสั่งไล่ออกในสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าสัปดาห์หน้า และจะเรียกคืนเงินเดือนและสวัสดิการต่างๆ ที่ทั้ง 3 คนได้รับนับตั้งแต่วันที่กระทำความผิดจนถึงปัจจุบัน ถ้าไม่ยอมคืนก็ต้องฟ้องร้อง แต่ทั้ง 3 รายสามารถอุทธรณ์คำสั่งต่อประธานบอร์ดได้ โดยตามขั้นตอน หากบอร์ดรับคำอุทธรณ์ของทั้ง 3 คน จะต้องตั้งคณะกรรมการพิจารณาการอุทธรณ์ และมีเวลาพิจารณา 60 วัน แต่หากบอร์ดไม่รับคำอุทธรณ์ ทั้ง 3 คนจะถูกไล่ออกตามคำสั่งทันที
สำหรับการรับผิดทางละเมิด คาดว่าคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิดที่มีนายวันชัย วราวิทย์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธาน จะพิจารณาเสร็จภายในเดือน ต.ค. 2564 นี้ โดยจะทราบว่า ใครต้องชดใช้ความเสียหายให้ อคส.บ้าง และจะรวมถึงกรรมการทุกคนในบอร์ดชุดเก่า ณ วันที่ความผิดเกิดขึ้นด้วยหรือไม่ โดยมูลค่าความเสียหายเบื้องต้นอยู่ที่ 2,000 ล้านบาท ตามที่ได้มีการถอนเงินออกจากบัญชี อคส.ไปจ่ายเป็นค่ามัดจำสินค้าให้บริษัท การ์เดียน โกลฟส์ คู่สัญญาที่ อคส.จ้างผลิตถุงมือยาง ยังไม่รวมดอกเบี้ย และค่าเสียโอกาสทางธุรกิจ จากนั้นตนจะนำเสนอให้คณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางละเมิด กระทรวงการคลัง พิจารณา เพราะเป็นเจ้าของเรื่องความรับผิดทางละเมิด หากเห็นชอบตามที่ อคส.เสนอ อคส.ก็จะดำเนินการฟ้องร้องทางแพ่งต่อไป
ส่วนการฟ้องร้องคดีอาญา ล่าสุดคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้แจ้งข้อกล่าวหาผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งเจ้าหน้าที่ อคส. 3 คนที่ถูกไล่ออก เจ้าหน้าที่อื่นใน อคส. รวมถึงภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง คาดว่าจะสรุปสำนวนทั้งหมด และชี้มูลความผิดได้ในเร็วๆ นี้ และจะส่งเรื่องให้อัยการดำเนินการฟ้องร้องต่อไป จากนั้นสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) จะดำเนินการทางแพ่ง และอาจถึงขั้นยึดทรัพย์ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดเพื่อเอาเงินมาคืนให้ อคส.
นอกจากนี้ ตนยังได้ออกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงอีก 1 ชุดเพื่อสืบสวนหาข้อเท็จจริงเจ้าหน้าที่ อคส.ที่เข้าข่ายกระทำความผิดเพิ่มเติม นอกเหนือจากทั้ง 3 คนที่ถูกไล่ออก โดยให้ตรวจสอบให้เสร็จเร็วที่สุด จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการสอบวินัยเพื่อลงโทษทางวินัยด้วย