ผู้จัดการรายวัน 360 - สบาย เทคโนโลยี ผนึกกำลังกับ Lazada ในการเปิดช่องทางและเครือข่ายของกลุ่มสบายฯ ในการขยายเครือข่ายผู้ขายบนแพลตฟอร์มลาซาด้า ช่วยยกระดับร้านค้าในชุมชนเพิ่มโอกาสในการขายสินค้า รองรับการเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซ และออนไลน์ชอปปิ้ง
นายวิรัช มรกตกาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานพาณิชย์และการลงทุน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงความร่วมมือกับ Lazada ในการเปิดช่องทางและเครือข่ายของกลุ่มสบายฯ ในการขยายเครือข่ายผู้ขายบนแพลตฟอร์มลาซาด้าในครั้งนี้ว่าเป็นการใช้ช่องทางเครือข่าย และกลุ่มร้านค้าไปรษณีย์เอกชนพันธมิตรของกลุ่มสบายฯ เช่น ร้านแฟรนไชส์ เอ็กซ์เพรส ชอป อย่างชิปสไมล์ (Shipsmile) ที่มีอยู่ทั่วประเทศประมาณ 3,500 สาขา และเครือข่ายไปรษณีย์เอกชนพันธมิตรต่างๆ เป็นช่องทางในการรับสมัครและเปิดร้านค้าบนลาซาด้าให้แก่ร้านค้าในแหล่งชุมชน ที่ยังมีอีกมากมายที่ยังไม่มีความรู้และยากต่อการเข้าถึงการเปิดร้านค้าของตนบนแพลตฟอร์มออนไลน์
วิธีการดังกล่าวนี้ นอกจากจะเป็นการช่วยขยายฐานร้านค้าให้แก่ลาซาด้าแล้ว เรายังอยากเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยประชาชน พ่อค้าแม่ค้าในแหล่งชุมชนห่างไกล ให้สามารถปรับตัวได้ทันการเติบโตของการค้าบนตลาดอีคอมเมิร์ซและกระแสของออนไลน์ชอปปิ้งที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในปัจจุบันอีกด้วย โดยเจ้าของร้านค้า เมื่อเปิดร้านค้าผ่านทางร้านไปรษณีย์เอกชนพันธมิตรแล้วก็ยังสามารถใช้บริการขนส่งของเราได้อีกด้วย จึงนับเป็น One Stop Service อย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สำหรับร้านค้าที่ไม่สะดวกที่จะใช้บริการในกลุ่มร้านไปรษณีย์เอกชนพันธมิตรของเรา ทางสบายฯ ยังมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและคู่ค้าของกลุ่มสบายฯ ที่มีอยู่ครอบคลุมทั่วประเทศ ที่จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะเข้าถึงร้านค้าตามแหล่งชุมชนที่ห่างไกลต่างๆ ได้เช่นกัน
นายวีระพงศ์ โก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท ลาซาด้า จำกัด (ประเทศไทย) กล่าวว่า “ธุรกิจท้องถิ่นและธุรกิจขนาดย่อม (SME) นับเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจไทย ลาซาด้ามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมมือกับกลุ่มสบายฯ ในการช่วยส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยขยายช่องทางการค้าออนไลน์สู่ลาซาด้า ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่มีอัตราการเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทุกมิติ เพียบพร้อมไปด้วยเครื่องมือสนับสนุน โซลูชัน รวมถึงแคมเปญส่งเสริมการขาย โดยเฉพาะเมกะแคมเปญ 11.11 และ 12.12 ที่กำลังจะมาถึงนี้ จะนำมาซึ่งผลประโยชน์สูงสุดของผู้ขายบนแพลตฟอร์ม อันนำไปสู่การขับเคลื่อนให้ภาคธุรกิจของไทยกลับมาฟื้นตัวอีกด้วย”
ทั้งนี้ ทางเครือข่ายของกลุ่มสบายฯ ได้เริ่มเปิดให้บริการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 11 ตุลาคมนี้เป็นต้นไป และเริ่มนำร่องที่ 20 จังหวัด ได้แก่ 1. นครราชสีมา 2. ขอนแก่น 3. อุดรธานี 4. สุรินทร์ 5. กาฬสินธุ์ 6. ชัยภูมิ 7. อำนาจเจริญ 8. ศรีสะเกษ 9. อุบลราชธานี 10. นครพนม 11. เชียงใหม่ 12. เชียงราย 13. พะเยา 14. ลำพูน 15. น่าน 16. เพชรบูรณ์ 17. พิษณุโลก 18. สุราษฎร์ธานี 19. นครศรีธรรมราช 20. สงขลา