ผู้จัดการรายวัน 360 - ดิจิทาซ ประเทศไทย ดิจิทัลเอเยนซีในเครือ ปับลิซีส กรุ๊ป ประเทศไทยร่วมกับโลตัสสร้างสรรค์แคมเปญ “รวมพลังลดใหญ่พาไทยฝ่าวิกฤต” ซึ่งเป็นแคมเปญที่โลตัสสร้างขึ้นเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่คนไทยในช่วงวิกฤต ผ่านการร่วมมือกับแบรนด์ดังทั่วไทยเพื่อลดราคาสินค้าครั้งใหญ่กว่า 50% ทั้งนี้ก็เพื่อช่วยลดค่าครองชีพให้แก่ทุกคน และเพื่อให้คนไทยทุกคนได้มีโอกาสเข้าถึงสินค้าคุณภาพในช่วงเวลายากลำบาก โดยแคมเปญนี้จะมุ่งเน้นการสื่อสารที่เข้าถึงผู้บริโภคอย่างสร้างสรรค์โดยเฉพาะบนโลกโซเชียลมีเดีย ทั้งนี้เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้บริโภคในขณะที่ทุกคนยังใช้ชีวิตอยู่บ้านเป็นหลัก
นายสันติ ทับทิมทอง ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์ ดิจิทาซ ประเทศไทย ดิจิทัลเอเยนซีในเครือ ปับลิซีส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “โจทย์สำคัญสำหรับเอเยนซีในปัจจุบันคือการสร้างการเชื่อมต่อหรือ Connection ระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภคในมุมมองที่สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้สามารถสร้างความจดจำและเกิดความรักในแบรนด์หรือ Brand Love โดยแคมเปญที่เป็นกระแสบนโลกโซเชียลล่าสุดอย่าง “รวมพลังลดใหญ่พาไทยฝ่าวิกฤต” ของโลตัสคือตัวอย่างที่ดีมาก เราต้องการเปลี่ยนภาพแคมเปญโปรโมชันแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นที่จดจำของผู้บริโภคมากขึ้น จึงเป็นที่มาของแรงบันดาลใจในการใช้โซเชียลมีเดียให้เป็นประโยชน์”
แคมเปญ “รวมพลังลดใหญ่พาไทยฝ่าวิกฤต” ได้เกิดเป็นกระแสทางโซเชียลมีเดียจากการเล่นกับสถานะบนเฟซบุ๊กแอ็กเคานต์ของโลตัส โดยเริ่มต้นจากการปล่อยคอนเทนต์จากเพจเฟซบุ๊กของโลตัสที่ได้ถูกเปลี่ยนสถานะ โดยขึ้นว่า “กำลังมีความสัมพันธ์” พร้อมแฮชแท็ก #ร่วมมือโปรเจกต์ใหญ่เพื่อคนไทยทุกคน เพื่อสร้างกระแสการพูดถึงและการคาดเดาจากผู้บริโภค
หลังจากนั้น แคมเปญนี้ถูกต่อยอดไปสู่คู่ค้าทางธุรกิจซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นแบรนด์ชั้นนำของเมืองไทยกว่า 40 แบรนด์ โดยทุกแบรนด์ต่างก็ขึ้นอัปเดตสถานะในเพจเฟซบุ๊กไปในทางเดียวกันว่า “กำลังมีความสัมพันธ์กับโลตัส” ทั้งนี้ ไอเดียของการเปลี่ยนสถานะบนเพจเฟซบุ๊กถือเป็นการสร้างสัญลักษณ์แทนคำมั่นสัญญาในความร่วมมือในแคมเปญลดราคาสินค้าครั้งยิ่งใหญ่ครั้งนี้ที่โลตัสส์ เพื่อผลประโยชน์ของคนไทยทุกคน
“หลังจากที่ปล่อยแคมเปญออกไป ก็ได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคที่มีต่อโลตัส รวมถึงบริษัทคู่ค้าต่างๆ อย่างมาก อีกทั้งยังสามารถสร้าง conversation บนโลกโซเชียลได้เป็นอย่างดี”
นายสันติกล่าวต่อว่า “แคมเปญนี้อาจจะดูเหมือนเป็นแคมเปญที่เริ่มต้นจากการสื่อสารเกี่ยวกับโปรโมชันและราคาสินค้า แต่หากเรานำเอา feature ต่างๆ ที่ผู้บริโภคเห็นในชีวิตประจำวันมาสร้างให้เป็นไอเดียเพื่อต่อยอดความน่าสนใจออกไป และสร้างความแตกต่างให้กับการสื่อสารได้ จาก feature เล็กๆ ที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดา ก็กลายเป็นความคิดสร้างสรรค์ในการสื่อสารให้กับแบรนด์ได้อย่างลงตัว ซึ่งทางดิจิทาซประเทศไทยให้ความสำคัญต่อการคิดแคมเปญให้กับลูกค้าในมุมมองที่แตกต่างและสามารถสร้างการจดจำ และเชื่อมต่อแบรนด์กับผู้บริโภคได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่เราใช้ชีวิตอยู่บนจอมือถือและคอมพิวเตอร์มากขึ้น”