“สยามฟิวเจอร์” รุกกรุงเทพกรีฑา เปิดคอมมูนิตีมอลล์สไตล์ธรรมชาติ

ผู้จัดการรายวัน 360 - สยามฟิวเจอร์ฯ เปิดโครงการ Market Place Krungthep Kreetha คอมมูนิตีเทพกรีฑา ทุ่มงบลงทุนกว่า 150 ล้านบาท ภายใต้แนวคิด “Urban Friendly” เหมือน ‘ชอปปิ้งในสวนหลังบ้าน’ เป็นอาคารชั้นเดียวมีพื้นที่ค้าปลีกกว่า 5,000 ตารางเมตร รวบรวมร้านค้าแบรนด์ดัง ซูเปอร์มาร์เกต ร้านอาหารและบริการต่างๆ โดดเด่นด้วยความร่มรื่นของธรรมชาติในพื้นที่ส่วนกลาง เปิดให้บริการ 1 ตุลาคมนี้ มั่นใจเป็นแลนด์มาร์กแห่งใหม่ในย่านกรุงเทพกรีฑา

นายนพพร วิฑูรชาติ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สยามฟิวเจอร์ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SF เปิดเผยว่า “บริษัทฯ เตรียมเปิดให้บริการคอมมูนิตีมอลล์ (Community Mall) แห่งใหม่ ภายใต้ชื่อโครงการ Market Place Krungthep Kreetha (มาร์เกตเพลซ กรุงเทพกรีฑา) นำเสนอผ่านคอนเซ็ปต์ “Urban Friendly” พื้นที่ความสุขใกล้บ้านคุณ ด้วยงบประมาณลงทุนในการพัฒนาโครงการรวม 150 ล้านบาท โดยวางเป้าหมายให้เป็นแลนด์มาร์กและจุดนัดพบแห่งใหม่ในย่านกรุงเทพกรีฑา พร้อมเปิดให้บริการในวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ซึ่งจะส่งผลให้อุตสาหกรรมค้าปลีกไทยที่มีมูลค่าราว 4 ล้านล้านบาท กลับมามีความคึกคักมากขึ้นในช่วงปลายปี เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายที่สำคัญประจำปีและช่วงเทศกาลปีใหม่ ขณะที่แนวโน้มสถานการณ์โควิด-19 เริ่มคลี่คลายอย่างต่อเนื่อง จากจำนวนผู้ติดเชื้อในประเทศที่ปรับลดลง อีกทั้งจากการที่เซ็นทรัลพัฒนาเข้าร่วมเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่จะยิ่งช่วยต่อยอดธุรกิจคอมมูนิตีมอลล์ของ SF ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น”


โครงการ Market Place Krungthep Kreetha เป็นคอมมูนิตีมอลล์ (Community Mall) แห่งแรกของ SF ที่จะมารองรับกำลังซื้อกลุ่มเป้าหมายที่พักอาศัยในย่านกรุงเทพกรีฑาและชุมชนบริเวณพื้นที่ใกล้เคียง พร้อมตอบโจทย์ความต้องการทุกไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ทั้งกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่กำลังสร้างครอบครัว, กลุ่มผู้สูงอายุวัยเกษียณ, กลุ่มครอบครัวที่มีทั้งเด็กและผู้สูงอายุ เติมเต็มประสบการณ์ให้ผู้ที่เข้ามาใช้บริการมีความรู้สึกแตกต่างจากคอมมูนิตีมอลล์อื่นๆ โดยมีการนำเสนอในรูปแบบใหม่ผ่านการออกแบบโครงสร้างที่เป็นโครงการอาคาร 1 ชั้น ภายในโครงการประกอบด้วยพื้นที่ค้าปลีกรวมกว่า 5,000 ตารางเมตร โดยมี 6 ไฮไลต์สำคัญของมาร์เกตเพลซ กรุงเทพกรีฑา ได้แก่

1. แลนด์มาร์กแห่งใหม่ย่านกรุงเทพกรีทา รายล้อมด้วยที่พักอาศัย โรงเรียนนานาชาติ โรงพยาบาลชั้นนำ และสนามกอล์ฟ

2. บรรยากาศที่ร่มรื่นแบบ Greenery Outdoor ที่ลูกค้าสามารถใช้บริการได้สบายตลอดวันเหมือนชอปปิ้งในสวนหลังบ้าน เป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อนหย่อนใจใกล้ชิดธรรมชาติ โดดเด่นด้วยพื้นที่ส่วนกลาง (Common area) Nature Fun Park ที่ออกแบบมาสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจ ท่ามกลางบรรยากาศอันอบอุ่นสร้างความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่ทุกคน

3. ตอบโจทย์ครอบครัวด้วย Tops Market พร้อมครบครันด้วยร้านอาหารและแบรนด์ชั้นนำ เช่น Starbucks, Greyhound Café, Swensens, Mcdonald, Subway, Wine Connection, Fuji, MK, ตำมั่ว, Coco Ichibanya และ GRAM เป็นต้น ร่วมด้วยร้านให้บริการด้านสุขภาพ และความงามชั้นนำ

4. เดินทางสะดวก จอดรถสบาย สะอาดปลอดภัย ง่ายต่อการชอปปิ้ง ตั้งอยู่บนถนนสายหลักศรีนครินทร์-ร่มเกล้า โดยมีมาตรการดูแลความสะอาดปลอดภัยให้แก่ผู้มาใช้บริการเป็นอย่างดี

5. ให้ประสบการณ์ความสนุกสำหรับเด็กๆ พร้อม B2S ตอบรับทุกความต้องการ

6. คอมมูนิตีมอลล์แบบ Pet friendly พาสัตว์เลี้ยงมาด้วยได้


ประธานกรรมการบริหาร SF กล่าวต่อว่า ทำเลกรุงเทพกรีฑานับเป็นพื้นที่สำคัญที่มีศักยภาพสูงในโซนตะวันออกของกรุงเทพมหานคร เป็นแหล่งศูนย์รวมของหมู่บ้านและที่พักอาศัยจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มครอบครัวสมัยใหม่ที่เลือกย่านกรุงเทพกรีฑาเป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิต โดยแวดล้อมไปด้วยสถานบริการและสิ่งอำนวยความสะดวก ทั้งโรงเรียนนานาชาติ สนามกอล์ฟ โรงพยาบาล ตลอดจนเส้นทางคมนาคมที่สะดวก

โครงการ Market Place Krungthep Kreetha ตั้งอยู่ห่างจากแยกศรีนครินทร์-ร่มเกล้า ประมาณ 3 กิโลเมตร และห่างจากสถานีรถไฟฟ้ากรุงเทพกรีฑา (MRT สายสีเหลือง) ประมาณ 4.5 กิโลเมตร ที่สามารถเดินทางด้วยรถยนต์ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น

“จากสถานการณ์ในประเทศขณะนี้กำลังคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้นต่อเนื่อง สะท้อนจากจำนวนผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เริ่มชะลอลง และการฉีดวัคซีนก็เดินหน้าอย่างเต็มกำลัง ประกอบกับทางโครงการมีมาตรการในการดูแลเรื่องความสะอาดปลอดภัยของผู้มาใช้บริการเป็นอย่างดี SF จึงเตรียมพร้อมเดินหน้าเปิดให้บริการ Market Place Krungthep Kreetha ภายในวันที่ 1 ตุลาคมนี้ เพื่อสร้างประสบการณ์พิเศษที่มีความแตกต่างให้แก่ผู้มาใช้บริการ ท่ามกลางบรรยากาศร่มรื่นเขียวขจีของธรรมชาติ มีต้นไม้และธารน้ำที่ให้ความรู้สึกเย็นสบาย รู้สึกผ่อนคลายและมีความอบอุ่น เหมือนเดินเล่นอยู่ในสวนหลังบ้านในขณะที่เพลิดเพลินกับการชอปปิ้ง สามารถใช้เวลาอยู่ในโครงการแห่งนี้ได้ตลอดทั้งวัน ทำให้เชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะกลายเป็นแลนด์มาร์กและจุดนัดพบแห่งใหม่ในย่านกรุงเทพกรีฑาอย่างแน่นอน” นายนพพรกล่าว