xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยเวียตเจ็ท” ลุยเปิด 10 จุดบิน ปรับเป้าผู้โดยสารปี 64 เหลือ 3.5 ล้านคน ปักธงปี 65 ผู้นำฟื้นตลาดบินระหว่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ไทยเวียตเจ็ท” ลุยเปิด 10 จุดบินในประเทศ ขยายบินข้ามภาคอีก 4 เส้นทาง ยึดฮับภูเก็ต ต.ค.นี้เปิดบิน “สิงคโปร์ และไทเป” ลุ้นโควิดเบา ปลายปี Load Factor แตะ 80% เป้าผู้โดยสาร 3.5 ล้านคน ปักธงปี 65 เป็นหัวหอกบินระหว่าง ปท. เตรียมพบ “อาคม” ทวงถามซอฟต์โลนช่วย 7 แอร์ไลน์
นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท เปิดเผยว่า สายการบินมีเป้าหมายในการดำเนินธุรกิจในปี 2564 คือ เป็นผู้นำในการฟื้นฟูตลาดการเดินทางภายในประเทศ โดยจะทำการเพิ่มเที่ยวบินเส้นทางในประเทศให้มากที่สุด ขณะที่แผนงานในปี 2565 มีเป้าหมายที่จะเป็นหัวหอกในการเปิดบินระหว่างประเทศ เพราะสายการบินเป็นธุรกิจต้นน้ำในการนำพาทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจเข้ามาเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และธุรกิจปลายน้ำภายในประเทศได้

หลังจากรัฐผ่อนคลายมาตรการเดินทางภายในประเทศ ซึ่งสายการบินจะเริ่มกลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย. 2564 ตามประกาศของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องว่าด้วยการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางและอนุญาตให้เที่ยวบินภายในประเทศทำการบิน โดยพร้อมให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ 10 จุดบิน ได้แก่ สุวรรณภูมิ ภูเก็ต เชียงใหม่ หาดใหญ่ เชียงราย กระบี่ นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี
ผู้ถือบัตรโดยสารภายในประเทศของไทยเวียตเจ็ทที่มีช่วงวันเดินทางระหว่างวันที่ 1-30 กันยายน 2564 และประสงค์เปลี่ยนแปลงกำหนดการเดินทาง สามารถเลือกเปลี่ยนวันเดินทางโดยไม่เสียค่าธรรมเนียม โดยมีวันเดินทางใหม่ภายในวันที่ 31 ธันวาคม 2564 (มีช่วงเวลาที่ไม่สามารถเดินทางได้) หรือสามารถเก็บวงเงินค่าโดยสาร (Credit Shell) เพื่อใช้ในการสำรองบัตรโดยสารในอนาคต จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 สามารถตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.vietjetair.com

ซึ่งประเมินในช่วงครึ่งเดือนแรกปริมาณการเดินทางอาจจะยังไม่มากนัก จะเดินทางเท่าที่จำเป็น เนื่องจากยังระวังตัวและยังไม่คุ้นเคยกับประกาศเงื่อนไขในการเดินทางในแต่ละจังหวัด แต่เชื่อว่าช่วงครึ่งหลังเดือน ก.ย.การเดินทางจะค่อยๆ เพิ่มขึ้น แต่ยังเฉพาะที่มีความจำเป็น คาดว่าจะมี Load Factor อยู่ที่ 50-60% ส่วนเดือน ต.ค.จะเพิ่มเป็น 60-75% และเดือน พ.ย.-ธ.ค.อยู่ราว 80% โดยมองว่าเราน่าจะเป็นจุดต่ำสุดแล้ว และหวังว่าต่อไปนี้จะดีขึ้น

เมื่อต้นปี 2564 ตั้งเป้าจำนวนผู้โดยสารทั้งปีไว้ที่ 5 ล้านคน มากกว่าปี 2563 ที่มีผู้โดยสาร 2.9 ล้านคน แต่หลังจากสถานการณ์โควิดรุนแรงและมีมาตรการควบคุมการเดินทางทำให้หยุดบินไป 2 เดือน ได้ปรับเป้าผู้โดยสารปี 2564 ลงมาอยู่ที่ 3.5 ล้านคน โตจากปี 2563 ประมาณ 10-15% ซึ่งยอมรับว่ารายได้ก็จะเป็นไปตามเป้าผู้โดยสาร ขณะที่สัดส่วนรายได้ผู้โดยสารในประเทศอยู่ที่ 85% รายได้จากต่างประเทศอยู่ที่ 15%
นอกจากนี้ ไทยเวียตเจ็ทเตรียมเปิดเส้นทางบินใหม่ข้ามภูมิภาค 2 เส้นทาง จากภูเก็ตสู่เชียงใหม่ และอุดรธานี เริ่มวันที่ 15 ก.ย. 2564 และกลับมาให้บริการเส้นทางบินระหว่างภูเก็ต-เชียงราย และหาดใหญ่ -เชียงราย เริ่มวันที่ 1 ต.ค. 2564 ซึ่งสายการบินสนับสนุน “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ (Phuket Sandbox)” อย่างเต็มที่ และหากสถานการณ์ในช่วงปลายปีนี้ดีขึ้น สามารถควบคุมการติดเชื้อได้ มีการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น จะทำให้ช่วง ต.ค.-พ.ย.นี้คนไทยจะกลับมาเดินทางในประเทศมากขึ้น โดยคาดว่าจะมีเที่ยวบินให้บริการเพิ่มเป็น 100-120 เที่ยวบินต่อวัน ซึ่งจะอยู่ในระดับเท่ากับช่วง พ.ย.-ธ.ค. 2563
จังหวัดภูเก็ตถือเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยว ทั้งยังเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทยที่รองรับโครงการแซนด์บ็อกซ์ สายการบินไทยเวียตเจ็ทเลือกจังหวัดภูเก็ตเป็นศูนย์กลางการปฏิบัติการบินแห่งที่สอง โดยมีอากาศยานและพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินประจำการ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต ยังผลให้สามารถให้บริการเที่ยวบินจากภูเก็ตได้อย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ สายการบินฯ คาดว่าการเปิดเส้นทางบินใหม่ทั้งภายในและระหว่างประเทศ รวมทั้งการกลับมาให้บริการเส้นทางบินข้ามภูมิภาคภายในประเทศซึ่งเชื่อมต่อกับภูเก็ตในครั้งนี้ จะทำให้นักท่องเที่ยวมีตัวเลือกการเดินทางที่สะดวกสบายและเข้าถึงได้มากขึ้น ท่ามกลางการระบาดของโรคไวรัสโควิด-19

@ลุยเปิดเส้นทางบินระหว่างประเทศสู่สิงคโปร์ และไทเป
สำหรับเส้นทางระหว่างประเทศนั้น มีแผนเปิดเส้นทางบินใหม่ระหว่างกรุงเทพฯ (สุวรรณภูมิ) สู่สิงคโปร์ และไทเป พร้อมเที่ยวบินตรงเชื่อมระหว่างภูเก็ต และสิงคโปร์ โดยเส้นทางบินใหม่จากกรุงเทพฯ (BKK)- ไทเป (TPE) เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค. 2564/3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ จะให้บริการทุกวันพุธ ศุกร์ และอาทิตย์ และกรุงเทพฯ-สิงคโปร์ (SIN) วันที่ 21 ต.ค. 2564/3 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ให้บริการทุกวันอังคาร พฤหัสบดี และอาทิตย์

ขณะที่เส้นทางบินตรงระหว่างภูเก็ต-สิงคโปร์ จะเริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 21 ต.ค. 2564/2 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ ทุกวันพฤหัสบดี และอาทิตย์ โดยจะปรับเพิ่มความถี่เที่ยวบินของทั้งสามเส้นทางบินอย่างต่อเนื่องในภายหลัง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารและตอบรับความต้องการเดินทางที่เพิ่มสูงขึ้น และยังได้ให้บริการเที่ยวบินเชื่อมต่อจากกรุงเทพฯ ไปยังภูเก็ต สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางจากไทเปมายังกรุงเทพฯ มอบตัวเลือกการเดินทางเชื่อมต่อ “ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์” ที่สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

@หารือ รมว.คลังสัปดาห์หน้า ช่วยเหลือเงินกู้

นายวรเนติกล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) ซึ่งสายการบินทั้ง 7 สายได้เสนอขอความช่วยเหลือจากรัฐบาลว่า ในสัปดาห์หน้าสายการบินจะเข้าหารือกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ซึ่งคาดหมายว่าจะได้รับการพิจารณาช่วยเหลือ โดยก่อนหน้านี้ได้เสนอซอฟต์โลนวงเงิน 25,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในด้านเงินเดือนพนักงานช่วง 6 เดือน ต่อมาปรับลดเหลือ 15,000 ล้านบาท และล่าสุดปรับลด 7,000 ล้านบาทแล้ว ซึ่งยอมรับว่าช่วงหยุดบิน 2 เดือนที่ผ่านมาทุกสายการบินลำบากมาก ไทยเวียตเจ็ทเป็นสายการบินเล็ก อาจจะกระทบน้อยกว่าสายการบินใหญ่กว่า โดยได้พยายามเจรจาผ่อนผันการชำระหนี้ต่างๆ ส่วนพนักงานทุกระดับยอมลดเงินเดือน เพราะอยากให้ธุรกิจเดินหน้าต่อไปได้
“เราเป็นสายการบินเล็กมีเครื่องบิน 15 ลำ จึงใช้ทำการบินภายในประเทศครบทุกลำ โดยปลายปีนี้จะเพิ่มเป็น 18 ลำ และปี 2565 เพิ่มอีก 7-8 ลำ และมีแผนเพิ่มฝูงบินเป็น 40-50 ลำใน 3-4 ปี เพื่อรองรับการขยายเส้นทางบินข้ามภาคในประเทศ และเส้นทางระหว่างประเทศ เรามีเป้าหมายเป็นหัวหอกในการเปิดบินระหว่างประเทศเพื่อกระตุ้นการเดินทาง เพราะสายการบินเป็นธุรกิจต้นน้ำในการนำพาทั้งนักท่องเที่ยว นักธุรกิจเข้ามาเพื่อช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ และธุรกิจปลายน้ำภายในประเทศได้”

นายวรเนติ หล้าพระบาง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายการบินไทยเวียตเจ็ท




กำลังโหลดความคิดเห็น