“ศักดิ์สยาม” เร่งแผนยานยนต์ไฟฟ้า ผลักดันรถไฟ EV ร่วมมือสถาบันการศึกษาปรับปรุงหัวรถจักรเก่า 4 คัน นำร่องใช้ปี 66 เร่งจัดหาใหม่ 20 คันปี 67 สั่งการ ขร.รฟท.ทำแผนเร่งด่วนลากขบวนรถเข้าสถานีกลางบางซื่อ
เมื่อวันที่ 26 ส.ค. นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานการประชุมเรื่อง การผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ครั้งที่ 3 ด้วย Application “Zoom” โดยมีผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงคมนาคม กรมการขนส่งทางราง (ขร.) กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) และการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เข้าร่วมการประชุม
ที่ประชุมติดตามนโยบายของ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ที่เร่งรัดผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้าสำหรับการขนส่งสาธารณะ กรณีรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ซึ่งจะมีการปรับปรุงแผนการนำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train ที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ที่ติดตั้งในตัวรถไฟมาใช้ในประเทศให้เร็วขึ้นจากแผนเดิมปี 2568 เป็นปี 2566 โดยในปี 2564 จะดำเนินการศึกษาและออกแบบรถไฟ EV ที่เหมาะสมกับประเทศไทย จากนั้นในปี 2565 จะเป็นการเตรียมการและดำเนินการดัดแปลงรถไฟ EV จากรถจักรเก่า และในปี 2566 ดำเนินการทดสอบรถไฟ EV ในศูนย์ทดสอบและทดลองวิ่งในเส้นทาง นอกจากนี้ยังได้ดำเนินการจัดทำแผนการดำเนินงาน นำรถไฟขับเคลื่อนด้วยระบบไฟฟ้า EV on Train มาใช้ใประเทศไทย โดยมีแผนครอบคลุมตั้งแต่ปี 2564 จนถึงปี 2576
โดยมีโครงการระยะสั้นที่ทาง ขร.ร่วมกับ รฟท. สถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง (องค์กรมหาชน) และสถาบันการศึกษา จะร่วมมือกันปรับปรุงรถจักรเก่า GEK หรือ Alsthom เป็นระบบ Battery Locomotive จำนวน 4 คัน ให้แล้วเสร็จในปี 2566 และโครงการจัดหารถจักรสับเปลี่ยน (Battery Shunting Locomotive) จำนวน 20 คัน ที่จะนำมาใช้งานภายในปี 2567
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ได้ให้ ขร.และ รฟท.จัดทำแผนการดำเนินการและขั้นตอนในการนำรถไฟ EV on Train มาใช้ในประเทศไทยให้มีความชัดเจนและเป็นรูปธรรม รวมทั้งจัดหาทุนในการดำเนินการ และให้ รฟท.ร่วมกับสถาบันการศึกษาทำการศึกษาวิจัยการนำรถไฟ EV on Train มาใช้สำหรับลากจูงขบวนรถไฟที่จะเข้ามาใช้สถานีกลางบางซื่อในระยะเร่งด่วน
ส่วนหน่วยงานผู้ให้บริการระบบรางที่ใช้พลังงานไฟฟ้า ให้ศึกษาความต้องการและการบริหารจัดการการใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อให้มีความคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยอาจพิจารณาการจัดสร้างโรงไฟฟ้า
เพื่อจ่ายพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในการเดินรถ และส่วนที่เหลือสามารถนำมาจ่ายคืนไปยังระบบไฟฟ้า