ผู้รับเหมาไทย 4 รายยื่นชิงทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง 2 สัญญา 1.4 หมื่นล้าน หลังปรับ TOR ประมูล e-bidding กทพ.เร่งสรุปผลเสนอบอร์ดใน ส.ค.นี้ ลุ้นลงนาม ก.ย.เบิกจ่ายค่างาน 1,400 ล้าน ช่วยปลดภาระดอกเบี้ย TFF
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ว่าการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าการประกวดราคาโครงการก่อสร้างทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตกกรุงเทพมหานคร สัญญาที่ 1 และสัญญาที่ 3 วงเงินรวมกว่า 1.47 หมื่นล้านบาท ว่า จากที่กทพ.ได้เปิดขายเอกสารประมูลจนถึงวันที่ 30 ก.ค. 2564 ซึ่งมีเอกชนซื้อซองรวม 10 ราย และกำหนดให้ยื่นข้อเสนอในวันที่ 2 ส.ค. 2564 ปรากฏว่าในแต่ละสัญญามีเอกชนยื่นข้อเสนอในการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) จำนวน 4 ราย โดยขณะนี้ยังไม่สามารถประกาศผลผู้เสนอราคาต่ำสุดได้ เนื่องจากคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอยู่ระหว่างตรวจสอบคุณสมบัติ และคาดว่าจะเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ (บอร์ด) กทพ.ได้ภายในเดือน ส.ค.นี้
ทั้งนี้ หากไม่มีผู้ยื่นอุทธรณ์หรือร้องเรียน คาดว่าจะสรุปการประมูลและสามารถลงนามสัญญากับผู้ชนะประมูลได้ในเดือน ก.ย. 2564 เพื่อให้เริ่มการก่อสร้างในเดือน ต.ค. 2564
ในการประมูลครั้งนี้ กทพ.ได้กำหนดเงื่อนไขการประกวดราคา (TOR) โดยยึดตามกรอบเดิม และเป็นการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ตามประกาศกรมบัญชีกลาง ซึ่งทำให้ผู้รับเหมาต่างชาติที่ต้องการเข้าประมูลจะต้องร่วมกลุ่มกับผู้รับเหมาไทย ไม่สามารถยื่นเป็นแกนนำในการประมูลได้เหมือนเดิมที่ประกาศประกวดราคานานาชาติ (International Bidding) ซึ่งพบว่าในครั้งนี้ไม่มีเอกชนต่างชาติ รวมถึงจากจีนเข้ายื่นประมูลแต่อย่างใด ขณะที่แต่ละสัญญามีเอกชนยื่นซอง 4 ราย ถือว่ามีจำนวนมากพอที่จะทำให้เกิดการแข่งขัน และล่าสุดยังไม่มีการอุทธรณ์ใดๆ
สำหรับราคากลางของทั้ง 2 สัญญาในการประมูลครั้งนี้ปรับเพิ่มขึ้นจากเดิมสัญญาละประมาณ 300 กว่าล้านบาทนั้นเป็นไปตามต้นทุนจริงในปัจจุบัน ทั้งราคาเหล็ก วัสดุก่อสร้างที่เพิ่มสูงขึ้น 10% แต่ราคากลางปรับเพิ่มขึ้นแค่ 3% เท่านั้น ขณะที่มีการเร่งรัดระยะเวลาก่อสร้างให้เร็วขึ้นจาก 39 เดือนเหลือ 34 เดือน หรือประมาณ 12% ซึ่งไม่ได้คิดส่วนนี้คืนกลับไปด้วย ดังนั้นจึงถือเป็นราคากลางที่ต่ำอยู่แล้ว
นายสุรเชษฐ์กล่าวว่า หากสามารถลงนามทั้ง 2 สัญญาได้ในเดือ นก.ย.นี้จะทำให้ กทพ.สามารถเร่งเบิกจ่ายเงินงวดแรก 10% ของมูลค่างาน หรือสัญญาละประมาณ 700 ล้านบาท รวมเป็นเงินประมาณ 1,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินจากกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) หรือ TFF ทำให้ กทพ.ลดภาระดอกเบี้ยจาก TFF อัตรา 8% หรือประมาณ 1,300 ล้านบาทต่อปีลงได้
สำหรับโครงการก่อสร้างทางด่วน สายพระราม 3-ดาวคะนอง-ถนนวงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ระยะทาง 18.7 กม. วงเงินประมาณ 3 หมื่นล้านบาท แบ่งออกเป็น 5 สัญญา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการก่อสร้างสัญญาที่ 2 ซึ่งเป็นทางยกระดับจากเซ็นทรัลพระราม 2-โรงพยาบาลบางปะกอก 9 ระยะทาง 5.3 กม. และสัญญาที่ 4 งานก่อสร้างสะพานขึงคู่ขนาน ระยะทาง 2 กม. โดยทั้ง 2 สัญญาได้เริ่มต้นการก่อสร้างตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 และคาดว่าจะก่อสร้างแล้วเสร็จในช่วงกลางปี 2566
ส่วนสัญญาที่ 1 งานก่อสร้างทางยกระดับ ขนาด 6 ช่องจราจร จากแยกต่างระดับบางขุนเทียน-เซ็นทรัลพระราม 2 ระยะทาง 6.4 กม. ตั้งแต่ กม.0+000 ของโครงการฯ (จุดเริ่มต้นของโครงการฯ คือ กม.13+000 ของถนนพระรามที่ 2) ถึง กม.6+369.090 ของโครงการฯ พร้อมทางขึ้นลงบริเวณด่านบางกระดี่ และบางขุนเทียน, อาคารด่านควบคุมต่างๆ และด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง ราคากลาง 7,360.78 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 34 เดือน
สัญญาที่ 3 งานก่อสร้างทางยกระดับจากโรงพยาบาลบางปะกอก 9-ด่านดาวคะนอง ระยะทาง 5 กม. ตั้งแต่ กม.11+690.577 ของโครงการฯ ถึง กม.16+694.752 ของโครงการฯ พร้อมทางขึ้นลงบริเวณด่านสุขสวัสดิ์, อาคารด่านควบคุมฯ ต่างๆ และด่านจัดเก็บค่าผ่านทาง และอาคารอื่นๆ ราคากลาง 7,376.86 ล้านบาท ส่วนราคากลางเดิมคือ 6,990 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 34 เดือน