“ท็อปส์” ร่วมกับสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย แบ่งปันอาหารส่วนเกิน ผ่านโครงการ “Care and Share Food for All” (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน)
ทั่วทั้งโลกกำลังเผชิญกับวิกฤต “ความหิวโหย” ที่รุนแรงยิ่งกว่าเดิม สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยเป็นการระบุจากองค์การสหประชาชาติ (UN) ที่ล่าสุดอัตราการขาดสารอาหารเพิ่มขึ้นสูงถึงร้อยละ 10 “ท็อปส์” ในเครือเซ็นทรัล รีเทล ผู้นำด้านค้าปลีกซูเปอร์มาร์เกตชั้นนำของประเทศ จัดโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” ภารกิจแบ่งปันอาหารส่วนเกิน (Surplus food) จากการจำหน่ายในแต่ละวัน ได้แก่ เบเกอรี ผัก และผลไม้ ที่ยังมีคุณภาพดีสามารถนำไปปรุงอาหารและรับประทานได้ บริจาคแก่ผู้ขาดแคลนผ่านองค์กรต่างๆ โดยความร่วมมือล่าสุด ท็อปส์ มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 33 สาขา บริจาคอาหารส่วนเกินให้แก่สหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย ในโครงการ “Care and Share Food for All” (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) เพื่อช่วยเหลือเด็กยากจน เด็กทุพพลภาพ (พิการ ตาบอด) ผู้สูงอายุ และคนเจ็บป่วยในชุมชน รวมไปถึงผู้ลี้ภัยในพื้นที่ที่อยู่ภายใต้การดูแลของศูนย์คาทอลิกทั่วประเทศ
นายสเตฟาน คูม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ในเครือเซ็นทรัล รีเทล กล่าวว่า “บริษัทฯ ตระหนักถึงความสำคัญของการสูญเสียอาหาร และขยะอาหารที่เกิดจากกระบวนการผลิตสินค้าพื่อจำหน่ายในแต่ละวัน จึงมีเจตนารมณ์ในการลดปริมาณขยะอาหารในประเทศไทย ตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals:SDGs) ข้อ12: ว่าด้วยเรื่องสร้างหลักประกันให้มีรูปแบบการผลิตและการบริโภคที่ยั่งยืน (Ensure sustainable consumption and production patterns) โดยในข้อ 12.3 มีเป้าประสงค์ที่ครอบคลุมประเด็นการลดของเสียที่เป็นอาหาร (food waste) เพื่อจัดการอาหารส่วนเกินให้เกิดประโยชน์สูงสุด บริษัทฯ ได้จัดทำโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” เกิดจากแนวคิดที่ว่า อาหารทุกชนิดที่เราจำหน่ายมีคุณค่าและไม่ควรถูกทิ้งอย่างสูญเปล่า เพราะการทิ้งอาหารที่ยังมีคุณภาพดี นอกจากจะสูญเสียทรัพยากรแล้ว ยังเป็นการสร้างขยะอาหารให้เกิดขึ้นอย่างไม่จำเป็น และจะเกิดประโยชน์มากกว่าหากเรานำอาหารที่ยังมีคุณภาพเหล่านั้นนำกลับมาทำให้เกิดคุณค่า ด้วยการส่งมอบให้แก่หน่วยงานที่ดูแลเพื่อนำไปส่งต่อให้ผู้อื่นที่ขาดแคลน
ตั้งแต่ปี 2562 บริษัทฯ ได้ร่วมมือกับภาคีเครือข่ายต่างๆ ได้แก่ มูลนิธิสโกลาร์ส ออฟ ซัสทีแนนซ์ (SOS) มูลนิธิวีวีแชร์ ส่งมอบอาหารส่วนเกิน ได้แก่ ผัก ผลไม้ เบเกอรี และล่าสุด ท็อปส์ มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 33 สาขา ได้สนับสนุนโครงการ “Care and Share Food for All” (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) ภายใต้การดูแลของสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย บริจาคอาหารส่วนเกิน ให้แก่ศูนย์คาทอลิกทั่วประเทศ 33 ศูนย์ เพื่อนำไปมอบแก่กลุ่มบุคคลเป้าหมายที่ศูนย์คาทอลิกดูแล เช่น เด็กยากจน เด็กทุพพลภาพ (พิการ ตาบอด) ผู้สูงอายุและคนเจ็บป่วยในชุมชน รวมไปถึงผู้ลี้ภัยในพื้นที่” นับเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของการขจัดความหิวโหย (Zero Hunger) ตามเป้าหมายอันดับที่ 2 การพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ
ซิสเตอร์บังอร มธุรสสุวรรณ เลขาธิการสหพันธ์ฯ ณ อารามพระหฤทัย คลองเตย หนึ่งในผู้รับผิดชอบโครงการ “Care and Share Food for All” (ให้ใจและแบ่งปันอาหารสำหรับทุกคน) กล่าวว่า “โครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจากการที่สหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทยได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการกำจัดความหิวโหยและการสูญเสียอาหารโดยเปล่าประโยชน์ในประเทศไทย เพื่อนำมายังผู้ยากจนในทุกกลุ่ม ตลอดจนผู้ที่มีอาหารไม่เพียงพอ ทั้งในชุมชนและกลุ่มบุคคลที่อยู่ในความดูแลของคณะนักบวชและ/หรือในสังฆมณฑลต่างๆ ซึ่งเป็นการแสดงออกซึ่งความรักและการแบ่งปันที่เป็นรูปธรรมตามจิตตารมณ์ของพระเยซูคริสตเจ้า และรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่โครงการ “Care and Share Food for All” ได้รับการสนับสนุนจากท็อปส์ โดยเริ่มต้นโครงการครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา มีการรับมอบอาหารส่วนเกินจากท็อปส์ มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ 6 สาขา ในพื้นที่กรุงเทพฯ นนทบุรี และ พัทยา เพื่อส่งต่อไปยังศูนย์คาทอลิก 5 แห่งที่เข้าร่วม ซึ่งการดำเนินโครงการประสบผลสำเร็จอย่างมาก จนปัจจุบันได้ขยายความช่วยเหลือเพิ่มอีก 28 ศูนย์ รวมเป็น 33 ศูนย์ทั่วประเทศ และรับมอบอาหารส่วนเกินจากท็อปส์ มาร์เก็ต และเซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ ในพื้นที่ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคเหนือ รวม 33 สาขา”
ซิสเตอร์ปิยฉัตร บุญมูล ผู้อำนวยการศูนย์ธารชีวิตสตรี อธิการ คณะศรีชุมพาบาลบ้านพัทยา หนึ่งในศูนย์คาทอลิกที่รับอาหารส่วนเกินจากท็อปส์ มาร์เก็ต สาขาบ้านแอนด์บียอนด์พัทยา และพัทยาใต้ ตึกคอม กล่าวว่า “รู้สึกขอบคุณต่อความใจดี มีเมตตาจิตแก่สังคม เพราะโครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” ที่ร่วมส่งมอบอาหารส่วนเกินให้แก่โครงการ Care and Share Food for All ของสหพันธ์อธิการเจ้าคณะนักบวชในประเทศไทย มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อเยาวสตรีและบรรดาสตรีที่เข้ามาใช้บริการที่ศูนย์คาทอลิก คนที่ไม่มีเงินซื้อข้าวหรือตกงานก็ได้รับประทานอาหารที่รับมา ยิ่งปัจจุบันมีสถานการณ์ COVID-19 ทางศูนย์ฯ ได้แบ่งบางส่วนของขนมปังประมาณ 30-50 ชิ้นเพื่อนำไปแจกแก่ชาวบ้านที่มารอรับอาหารชายหาดเมืองพัทยาอีกด้วย” ทั้งนี้ ศูนย์ธารชีวิตสตรีเข้าร่วมโครงการเมื่อต้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา และมีประชาชนได้รับอาหารจากท็อปส์ราว 200-250 คนต่อวัน
นายสเตฟานกล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการ “FOOD for GOOD DEED อาหารปันสุข” จะยังคงดำเนินต่อไป เพราะถือได้ว่าเป็นการบริหารจัดการอาหารส่วนเกินอีกรูปแบบหนึ่ง นอกจากความร่วมมือกับมูลนิธิต่างๆ ที่มารับสินค้าและนำไปส่งต่อชุมชนแล้ว เรายังยินดีให้ความร่วมมือกับชุมชนต่างๆ ที่มีความพร้อมและประสงค์ขอรับอาหารส่วนเกินจากร้านค้าของเรา เพื่อนำไปบริหารจัดการส่งต่ออาหารส่วนเกินไปยังผู้ที่ขาดแคลนภายในชุมชนใกล้เคียงสาขา การดำเนินโครงการดังกล่าวนอกจากจะได้ช่วยเหลือผู้ที่ได้รับความลำบากให้หลุดพ้นจากความหิวโหย การบริจาคอาหารส่วนเกินยังมีประโยชน์อีกหลากหลายมิติด้วยกัน ได้แก่ ลดปริมาณการสูญเสียอาหาร ลดปริมาณขยะอาหารส่วนเกินของประเทศที่ส่งผลต่อมลภาวะทางสิ่งแวดล้อม ซึ่งในประเทศไทยขยะอาหารที่ถูกทิ้งในแต่ละวันมีปริมาณสูงมากและไม่ได้รับการบริหารจัดการที่ดีพอ การทับถมของขยะอาหารจึงส่งผลเสียมากมายทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สุขอนามัยของประชาชน และคุณภาพชีวิต จากวันนั้นถึงวันนี้ “ท็อปส์ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์ และแฟมิลี่มาร์ท” 109 สาขาทั่วประเทศ ได้ร่วมแบ่งปันอาหารส่วนเกินไปแล้วกว่า 1,608,161 มื้อ ซึ่งนอกจากช่วยให้ผู้คนได้อิ่มท้องเพื่อมีแรงสู้ต่อแล้ว ยังช่วยลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกได้อีก 727,501.60 กิโลกรัม
ภาพเด็กน้อยและผู้คนที่ยิ้มออกเมื่อได้รับอาหาร คือแรงผลักดันและแรงบันดาลใจสำคัญที่ทำให้เรามุ่งมั่นที่จะเดินหน้าช่วยเหลือสังคมต่อไป เพราะท็อปส์รู้ดีว่าทุกมื้อที่อิ่มท้อง ย่อมหมายถึงหนึ่งชีวิตที่สามารถก้าวต่อไปได้ และพร้อมกลับมาเป็นกำลังหลักในการพัฒนาประเทศไทยไปด้วยกัน