เงินเฟ้อ ก.ค. 64 เพิ่ม 0.45% น้ำมันยังเป็นปัจจัยหลัก บวกกลุ่มอาหารสด เครื่องประกอบอาหารที่เป็นตัวดัน แต่ได้แรงฉุดจากการลดค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าการศึกษา และอาหารสดบางชนิด ทำให้เงินเฟ้อขยับขึ้นไม่มาก เผยหากไม่มีมาตรการรัฐเงินเฟ้อเดือนนี้มีแววพุ่งถึง 1.8% ส่วนทั้งปียังประเมินโต 1.2% เหมือนเดิม
นายวิชานัน นิวาตจินดา รองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (เงินเฟ้อทั่วไป) เดือน ก.ค. 2564 เท่ากับ 99.81 เทียบกับเดือน มิ.ย. 2564 ลดลง 0.12% เทียบกับ ก.ค. 2563 เพิ่มขึ้น 0.45% สูงขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 แต่เพิ่มในอัตราที่ชะลอตัวลง ส่วนเงินเฟ้อเฉลี่ย 7 เดือนของปี 2564 (ม.ค.-ก.ค.) เพิ่มขึ้น 0.83% ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน ที่หักอาหารสดและพลังงานที่มีความผันผวนด้านราคาออก พบว่าดัชนีอยู่ที่ 100.50 เพิ่มขึ้น 0.03% เมื่อเทียบกับเดือน มิ.ย. 2564 และเพิ่มขึ้น 0.14% เมื่อเทียบกับเดือน ก.ค. 2563 และเฉลี่ย 7 เดือนเพิ่มขึ้น 0.26%
สาเหตุที่ทำให้เงินเฟ้อยังคงขยายตัว มีปัจจัยหลักมาจากราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น 29.35% อาหารสดบางชนิด เช่น เนื้อสุกร ไข่ไก่ ผลไม้สด ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องของฐานปีที่แล้วต่ำ และมีความต้องการเพิ่มขึ้นในบางช่วง และเครื่องประกอบอาหาร เช่น น้ำมันพืช ซีอิ๊ว พริกแกง ที่เพิ่มขึ้นจากฐานปีที่แล้วต่ำ โดยมีปัจจัยช่วยฉุดไม่ให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมาก จากการลดค่าน้ำประปา และค่าไฟฟ้าที่ลดค่อนข้างแรงกว่าเดือนที่แล้ว เพราะใช้ฐานคำนวณใหม่เป็นเดือน ก.พ. จากเดิม เม.ย. ทำให้จ่ายค่าไฟถูกลง และยังมีการลดค่าธรรมเนียมการศึกษาด้วย รวมทั้งยังมีการลดลงของสินค้าอาหารบางชนิด เช่น ข้าว ข้าวสารเหนียว ผักสด ผลไม้ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ และเครื่องนุ่งห่ม ที่ราคาลดลงเพราะความต้องการลดลงในช่วงสถานการณ์โควิด-19
“กลุ่มที่ทำให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมีมากกว่ากลุ่มที่ทำให้เงินเฟ้อหดตัว จึงทำให้เงินเฟ้อเดือน ก.ค.เพิ่ม 0.45% แต่ถ้าไม่มีมาตรการรัฐ ทั้งลดค่าน้ำ ค่าไฟ จะมีผลทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้นอีก 1.3% ถ้าบวกเข้าไปเงินเฟ้อเดือนนี้ก็จะวิ่งไปที่ 1.8% พอมีมาตรการมาช่วยก็ขึ้นไม่มากอย่างที่เห็น” นายวิชานันกล่าว
สำหรับแนวโน้มเงินเฟ้อในเดือน ส.ค. 2564 คาดว่าจะขยายตัวไม่สูงมากนัก เพราะยังมีปัจจัยบวกจากมาตรการลดค่าครองชีพของรัฐบาล ทั้งค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ในรอบเดือน ก.ค.-ส.ค. 2564 ส่วนราคาน้ำมัน แม้จะมีแนวโน้มสูงขึ้น แต่ก็มีแนวโน้มชะลอตัวลงเพราะฐานปีก่อนเริ่มสูงกว่าช่วงที่ผ่านมา สำหรับสินค้าในหมวดอื่นๆ น่าจะยังคงเคลื่อนไหวในทิศทางปกติ ตามปริมาณผลผลิตและความต้องการ ขณะที่ราคาสินค้าเกษตรยังมีโอกาสผันผวนตามสภาพอากาศ และยังมีปัจจัยจากโควิด-19 ที่กระทบต่อกำลังซื้อของประชาชน ส่วนเงินเฟ้อทั้งปียังคาดคาดการณ์อยู่ในช่วง 0.7-1.7% มีค่ากลางอยู่ที่ 1.2% และมองว่าโอกาสที่จะขยับขึ้นไปถึง 1.7% มีความเป็นไปได้น้อย ยกเว้นน้ำมันแพงต่อเนื่อง และรัฐไม่มีมาตรการลดค่าครองชีพ