xs
xsm
sm
md
lg

“พาณิชย์” ขึ้นทะเบียน “ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่-เครื่องเคลือบเวียงกาหลง” เป็น GI ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พาณิชย์” ขึ้นทะเบียนสินค้า GI ใหม่อีก 2 รายการ “ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่” และ “เครื่องเคลือบเวียงกาหลง” มั่นใจช่วยเพิ่มมูลค่า และสร้างรายได้ให้สินค้าชุมชนได้เพิ่มขึ้น ทำให้ล่าสุดมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว 141 รายการจาก 77 จังหวัด เผยยังได้เดินหน้าควบคุมคุณภาพ พร้อมเพิ่มช่องทางจำหน่ายทั้งในและต่างประเทศให้ด้วย

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อีก 2 รายการ ได้แก่ ทุเรียนปากช่องเขาใหญ่ และเครื่องเคลือบเวียงกาหลง ซึ่งการขึ้นทะเบียน GI จะช่วยคุ้มครองชื่อสินค้าให้เป็นสิทธิเฉพาะของชุมชน มีการรักษามาตรฐานของสินค้าและภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างความเชื่อมั่นในแหล่งต้นกำเนิดคุณภาพของสินค้า และจะช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าและสร้างรายได้ให้ชุมชนด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถผลิตได้เฉพาะท้องถิ่น ทำให้ปัจจุบันประเทศไทยมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสินค้า GI แล้ว 141 รายการ จาก 77 จังหวัด

สำหรับทุเรียนปากช่องเขาใหญ่เป็นทุเรียนพันธุ์หมอนทอง ที่มีเนื้อสัมผัสเนียน แน่นหนึบ แห้ง ละเอียด เส้นใยน้อย มีสีเหลืองอ่อนสม่ำเสมอทั้งผล กลิ่นหอมอ่อน รสชาติหวาน มัน ปลูกในอำเภอปากช่องซึ่งจัดอยู่ในพื้นที่ทุ่งหญ้าเขตร้อน มีมรสุมหลักพัดผ่าน ทำให้อากาศชุ่มชื้น มีฝนตกชุก สภาพอากาศกลางวันร้อนกลางคืนเย็น จึงทำให้ธาตุอาหารโพแทสเซียมที่สะสมอยู่ในเวลากลางคืนทำงานได้ดี ส่งผลให้ทุเรียนในพื้นที่ดังกล่าวรสชาติดี

ส่วนเครื่องเคลือบเวียงกาหลง มีลักษณะเด่นคือ ทนความร้อนสูง ผิวเรียบใสแต่ไม่มันเงา มีรอยแตกที่ผิวจากน้ำเคลือบ ดินที่ใช้ในการผลิตเป็นดินขาวเนื้อละเอียด มีความหนืดสูงคล้ายผงชอล์ก และดินดำเป็นดินที่อยู่ใต้ชั้นดินทราย สีดำแกมเทา มีความละเอียดสูง และมีทรายปนเล็กน้อย ซึ่งเป็นดินในพื้นที่ตำบลเวียงกาหลง เชียงราย หรือพื้นที่ข้างเคียงเท่านั้น ด้วยกรรมวิธีการเผาทำให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีพื้นผิวสีเขียวอมฟ้า เขียวไข่กา หรือขาวอมเหลือง โดยมีการเขียนสีด้วยสีธรรมชาติเป็นลวดลายเป็นเอกลักษณ์

นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า นอกจากเร่งผลักดันการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์แล้ว กรมฯ ยังส่งเสริมการควบคุมคุณภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้สินค้าชุมชนอย่าง GI ให้เติบโตอย่างยั่งยืน ตลอดจนส่งเสริมการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อให้สินค้า GI ไทยเป็นที่รู้จักในวงกว้างและสร้างรายได้สู่ชุมชน สร้างความเข้มแข็งให้แก่เศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืนต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น