‘ไซยะบุรีพาวเวอร์’ แจงพายุเจิมปากาส่งผลต่อน้ำหลากไหลลงแม่น้ำโขง ยันเป็นโรงไฟฟ้าแบบน้ำไหลผ่าน ปล่อยน้ำตามปริมาณที่ไหลเข้า
นายธนวัฒน์ ตรีวิศวเวทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีเค พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CKPower บริษัทผู้บริหารโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี ใน สปป.ลาว เปิดเผยว่า ในช่วงวันที่ 25 กรกฎาคม 2564 ได้เริ่มมีปริมาณน้ำไหลเข้าและผ่านโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรี จำนวน 8,000 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งเป็นปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงวันที่ 1-24 กรกฎาคม 2564 ที่มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 3,588 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทั้งนี้ เนื่องจากอิทธิพลพายุโซนร้อน “เจิมปากา” ซึ่งขณะนี้ได้อ่อนกำลังเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ยที่ส่งผลให้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา
ประกอบกับเขื่อนน้ำอู มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนตามที่ทางเขื่อนน้ำอูได้ประกาศแจ้งเตือนมาก่อนหน้านี้ โดยคาดการณ์ว่าในวันที่ 27 กรกฎาคมจะมีปริมาณน้ำไหลผ่านโรงไฟฟ้าประมาณ 7,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และทยอยลดลงเรื่อยๆ เป็น 6,400 และ 5,600 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม ตามลำดับ โดยปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้ามากไม่ส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าไซยะบุรีแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตาม โรงไฟฟ้าได้บริหารจัดการโดยการปล่อยน้ำผ่านโรงไฟฟ้าตามปริมาณน้ำจริงที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าตามธรรมชาติออกสู่ท้ายน้ำ เนื่องจากโรงไฟฟ้าพลังน้ำไซยะบุรีไม่ใช่เขื่อนประเภทกักเก็บน้ำ ไม่มีความสามารถในการกักเก็บน้ำและไม่มีอ่างเก็บน้ำ แต่เป็นโรงไฟฟ้าแบบน้ำไหลผ่าน หรือ Run-of-River กล่าวคือ ปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าจะเท่ากับปริมาณน้ำที่ไหลออกจากโรงไฟฟ้าเสมอโดยไม่มีการเปลี่ยนแปลงการไหลตามธรรมชาติของแม่น้ำโขง” นายธนวัฒน์กล่าว
จากข้อมูลค่าเฉลี่ยรายเดือนปริมาณน้ำที่ไหลผ่านโรงไฟฟ้าย้อนหลัง 80 ปี ตั้งแต่ก่อนมีโรงไฟฟ้า (พ.ศ. 2483-2563) พบว่าปริมาณน้ำปัจจุบันยังคงอยู่ในกรอบสถิติปริมาณน้ำสูงสุดและต่ำสุด ทั้งนี้ แต่ละปีจะมีปริมาณน้ำต่างกัน มีทั้งปีน้ำน้อยหรือปีน้ำมาก และคาดว่าปีนี้จะใกล้เคียงกับช่วงปี 2561 คือเป็นปีที่มีปริมาณน้ำค่อนข้างมากและเกิดขึ้นตามฤดูกาล