“จุรินทร์” เป็นประธานการลงนาม MOU ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ ระหว่างกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กีบเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ญี่ปุ่น มั่นใจช่วยเพิ่มโอกาสทางการค้าสองฝ่าย เผยเป็น Mini FTA ฉบับแรกของไทยที่ทำสำเร็จ เป้าต่อไปเตรียมลงนามกับไหหลำ จีน และรัฐเตลังกานา อินเดีย ช่วง ส.ค.นี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยในการเป็นประธานการลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรในอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับระหว่าง นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กับนายยูอิชิ ฮิงุชิ นายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ จังหวัดยามานาชิ ประเทศญี่ปุ่น ผ่านระบบออนไลน์ ว่า การลงนามในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของการเริ่มต้นนโยบายขยายความสัมพันธ์การค้าเชิงลึกของกระทรวงพาณิชย์ ประเทศไทย กับเมืองโคฟุ ญี่ปุ่น โดยเป็นการลงนามตามนโยบายเป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะได้ประโยชน์ร่วมกันในการขยายการค้าในด้านอัญมณีและเครื่องประดับระหว่างกันได้เพิ่มมากขึ้น
สำหรับประโยชน์ที่จะเกิดขึ้น จะมีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ทางด้านการพัฒนาธุรกิจการผลิตอัญมณีเครื่องประดับทางการตลาดและการถ่ายทอดเทคโนโลยีระหว่างกันในส่วนของ SMEs ของทั้งสองฝ่าย เพราะเมืองโคฟุเก่งเรื่องเทคโนโลยีการขึ้นตัวเรือน ไทยเก่งในเรื่องการเจียระไนอัญมณี จะมีการร่วมมือกันทำกิจกรรมส่งเสริมการตลาดร่วมกันทั้งในไทยและญี่ปุ่นเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน และคาดว่าจะช่วยส่งเสริมมูลค่าการค้าอัญมณีระหว่างกันเพิ่มขึ้น มูลค่าไม่ต่ำกว่า 15,500 ล้านบาท หรือเพิ่ม 5% ในปี 2564 จากปี 2563 มีมูลค่าการค้าด้านอัญมณี 14,754 ล้านบาท เพิ่ม 2%
“การลงนามนี้ถือเป็น Mini FTA ฉบับแรก หลังจากที่ผมได้มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์สร้างความสัมพันธ์ทางการค้าเชิงลึก โดยเมืองโคฟุเป็นศูนย์กลางการค้าด้านอัญมณีและเครื่องประดับของประเทศญี่ปุ่น การลงนามจะก่อให้เกิดประโยชน์หลายประการทั้งส่งเสริมภาคการผลิต ทำการตลาดร่วมกันระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และถ่ายทอดเทคโนโลยีต่าง ๆ ระหว่างกัน ทั้งการเจียระไน ขึ้นตัวเรือน และซอฟต์แวร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการผลิต ส่วน Mini FTA ฉบับต่อไปที่กระทรวงพาณิชย์ตั้งเป้า คือ ทำกับมณฑลไหหลำของประเทศจีน และรัฐเตลังกานาของประเทศอินเดีย และอื่นๆ คาดว่าจะสามารถลงนามได้ในช่วงเดือน ส.ค. 2564 ที่จะถึงนี้” นายจุรินทร์กล่าว
นายยูอิชิ ฮิงุชิ นายกเทศมนตรีเมืองโคฟุ กล่าวผ่านระบบถ่ายทอดสัญญาณสดจากประเทศญี่ปุ่นว่า เมืองโคฟุมีประชากรราว 190,000 คน ถือเป็นศูนย์กลางด้านการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของจังหวัดยามานาชิ เมืองโคฟุเป็นแหล่งผลิตผลึกแก้วคริสตัลที่มีการพัฒนาการเจียระไนและแปรรูปให้เป็นแหล่งแปรรูปอัญมณี เมืองโคฟุเป็นศูนย์กลางแห่งอัญมณีและเครื่องประดับ โดยก่อนนี้ ในปี 2562 ตนได้มีโอกาสเดินทางมาประเทศไทยและได้จัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจที่กรุงเทพฯ เพื่อประชาสัมพันธ์เครื่องประดับของเมืองโคฟุให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แม้ปัจจุบันจะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลต่อการเดินทางระหว่างประเทศ แต่การลงนาม MOU ในวันนี้จะช่วยเป็นแรงผลักดันในการพัฒนาอุตสาหกรรมเครื่องประดับทั้งไทยและเมืองโคฟุมากยิ่งขึ้นต่อไป และหวังว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะคลี่คลายโดยเร็ว และอุตสาหกรรมจิวเวลรีของสองประเทศจะพัฒนามากยิ่งขึ้นต่อไป
การลงนามในครั้งนี้มีนายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ นายสุริยน ศรีอรทัยกุล ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) นางประพีร์ สรไกรกิติกูล ประธานคณะกรรมการสมาคมการค้ากลุ่มอัญมณี เครื่องประดับและโลหะมีค่า สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายสุเมธ ประสงค์พงษ์ชัย ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยและพัฒนาอัญมณีและเครื่องประดับแห่งชาติ เข้าร่วมเป็นสักขีพยาน