กทท.เตรียมปรับปรุงถนนและระบบระบายน้ำฯ ป้องกันน้ำท่วมท่าเรือกรุงเทพ

กทท.เตรียมปรับปรุงพื้นถนนและระบบระบายน้ำฯ ป้องกันปัญหาน้ำท่วมในเขตท่าเรือกรุงเทพ เพิ่มความเชื่อมั่นให้ผู้ใช้บริการ

เรือโท กมลศักดิ์ พรหมประยูร ผู้อำนวยการการท่าเรือแห่งประเทศไทย  (กทท.) เปิดเผยว่า กทท. เตรียมดำเนินโครงการปรับปรุงพื้นถนนและระบบระบายน้ำบริเวณลานบรรจุตู้สินค้าและลานฝากเก็บตู้สินค้า เพื่อป้องกันน้ำท่วมภายในเขตรั้วศุลกากร ท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) พร้อม สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้ใช้บริการ

สำหรับพื้นที่บริเวณลานบรรจุตู้สินค้าและลานฝากเก็บตู้สินค้าภายในเขตรั้วศุลกากร ทกท. ปัจจุบันมีระดับความสูงอยู่ที่ +0.90 และ 1.00 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และมีการวางท่อระบายน้ำ ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.60 เมตร สามารถระบายน้ำได้ 0.302 ลูกบาศก์เมตร/วินาที

เพื่อเป็นมาตรการป้องกันในการเกิดเหตุน้ำท่วมขังบริเวณลานบรรจุตู้สินค้าและลานฝากเก็บตู้สินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ โครงการฯ ดังกล่าว กทท.จะดำเนินการเปลี่ยนท่อระบายน้ำให้มีศักยภาพในการระบายน้ำที่ดีขึ้น เป็นขนาด 1.20-1.50 เมตร พร้อมบ่อพัก จำนวน 4 เส้นทาง มีความยาวท่อระบายน้ำรวม 1,095 เมตร จะส่งน้ำตรงสู่สถานีสูบน้ำบริเวณโรงพักสินค้า 6 และสถานีสูบน้ำบริเวณเขื่อนองค์พระพุทธสมุทรมงคลเขตต์ ซึ่งจะเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายน้ำภายในบริเวณลานบรรจุตู้สินค้าและลานฝากเก็บตู้สินค้าเพิ่มขึ้น 1.614 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เพื่อเป็นการป้องกันน้ำท่วมที่เกิดจากฝนตกหนัก และเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำได้รวดเร็วและมากขึ้น ซึ่งการดำเนินโครงการฯ ดังกล่าวจะไม่ส่งผลกระทบต่อการขนส่งภายใน ทกท.

ทั้งนี้ ผู้อำนวยการการท่าเรือฯ กล่าวว่า กทท.ได้มีมาตรการระยะสั้น โดยจะมีการขุดลอกตะกอนดินบริเวณสถานีสูบน้ำเขื่อนองค์พระฯ ปีละ 1 ครั้งเพื่อให้สามารถรองรับปริมาตรน้ำได้มากขึ้น มีการดูแลบำรุงรักษาเครื่องสูบน้ำก่อนถึงฤดูฝนทุกปี และขุดลอกท่อระบายน้ำบริเวณลานบรรจุตู้สินค้าและลานฝากเก็บตู้สินค้าตลอดทั้งปี พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ประจำทุกสถานีเปิด-ปิดเครื่องสูบน้ำ รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ และประจำสถานีสูบน้ำเพื่อเฝ้าระวังระดับน้ำและรายงานสถานการณ์เป็นระยะ อีกทั้งได้เตรียมของบประมาณสำหรับซื้อเครื่องปั่นไฟ (Mobile Generator) สำรองไว้กรณีที่เกิดเหตุกระแสไฟฟ้าขัดข้องภายในเขตรั้วศุลกากร ทกท. และทุกสถานีจะมีเครื่องสูบน้ำสำรองไว้

ทั้งนี้ มาตรการดังกล่าวเป็นการป้องกันการเกิดปัญหาน้ำท่วมขัง และอาจทำให้สินค้าในตู้สินค้าเกิดความเสียหาย พร้อมทั้งสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการในการขนส่งผ่านท่าเรือได้เป็นอย่างดี