xs
xsm
sm
md
lg

BGRIM ตั้งเป้าผลิตไฟฟ้า 1 หมื่น MW ในปี 73 ชู 7 ยุทธศาสตร์ก้าวสู่ผู้ผลิตพลังงานชั้นนำ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



บี.กริม เพาเวอร์ ตั้งเป้ากำลังผลิตไฟฟ้าแตะ 10,000 เมกะวัตต์ในปี 2573 ดันรายได้พุ่งทะยานกว่า  100,000 ล้านบาท โดยเน้นลงทุนพลังงานสะอาดเพิ่มขึ้น พร้อมประกาศ 7 ยุทธศาสตร์เพื่อก้าวสู่ผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก

นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า บริษัทวางเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจาก 3,058 เมกะวัตต์ (MW) ในปี 2563 เป็น 7,200 เมกะวัตต์ในปี 2568 และมุ่งสู่ 10,000 เมกะวัตต์ในปี 2573 ส่งผลให้มีรายได้ต่อปีกว่า 100,000 ล้านบาท โดยเน้นการลงทุนพลังงานสะอาดมากขึ้น

การบรรลุเป้าหมายดังกล่าวจะดำเนินการภายใต้ 7 ยุทธศาสตร์ ที่มุ่งสร้างพลังให้สังคมโลกด้วยความโอบอ้อมอารี (Empowering the World Compassionately) ด้วยการผลิตพลังงานที่มีคุณภาพสูงและบริการแบบครบวงจรเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนการพัฒนาความร่วมมือทางธุรกิจกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งเป็นที่มาของ “ค่านิยมองค์กร” บี.กริม ใน 4 เรื่องหลัก คือ ความเป็นมืออาชีพ การมีทัศนคติที่ดี ความร่วมมือกัน และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

สำหรับ 7 ยุทธศาสตร์หลักในการขับเคลื่อนองค์กรในอนาคต เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ที่ 1 ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งจากก๊าซธรรมชาติและพลังงานสะอาดภายใต้รูปแบบสัมปทานกับภาครัฐในประเทศต่างๆ ทั่วโลก (B2G) เพื่อให้บริการไฟฟ้าและระบบสาธารณูปโภคที่มีประสิทธิภาพและเสถียรภาพสูง โดยจะเป็นการพัฒนาโครงการใหม่หรือการเข้าซื้อกิจการทั้งในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น สปป.ลาว, เวียดนาม, เกาหลีใต้, มาเลเซีย, กัมพูชา และฟิลิปปินส์

ยุทธศาสตร์ที่ 2 สร้างบทบาทสำคัญในธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และเชื้อเพลิงสะอาด จากความต้องการ LNG ของภูมิภาคอาเซียนซึ่งมีการเติบโตสูงที่สุดในโลก ปัจจุบัน บี.กริม เพาเวอร์ มีโควตาการนำเข้า LNG จำนวน 1.2 ล้านตันต่อปี อันจะนำมาสู่โอกาสในการบริหารต้นทุนการผลิตที่ดีขึ้น และโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ ทั้งด้านธุรกิจไฟฟ้าและการจำหน่าย LNG นอกจากนี้ ยังศึกษาเชื้อเพลิงทางเลือกต่างๆ เพื่อนำไปสู่การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในอนาคต

ยุทธศาสตร์ที่ 3 ให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมด้านสาธารณูปโภคแบบครบวงจร ปัจจุบันบริษัทมีการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำที่มีคุณภาพสูงให้แก่โรงงานอุตสาหกรรมกว่า 300 รายอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศไทย และเวียดนาม โดยจะขยายขอบเขตการให้บริการนอกเหนือไปจากนิคมอุตสาหกรรมที่ให้บริการอยู่ในปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนแนวโน้มการกระจายตัวแบบไม่รวมศูนย์ (Decentralization)

ยุทธศาสตร์ที่ 4 ให้บริการสาธารณูปโภคครบวงจรสำหรับกลุ่มอาคารพาณิชย์ในรูปแบบการนำเสนอโซลูชันทางด้านสาธารณูปโภค

ยุทธศาสตร์ที่ 5 ขยายธุรกิจระบบการส่งและระบบการจำหน่ายไฟฟ้าในภูมิภาค (private transmission & distribution) เพื่อสนับสนุนการส่งและจำหน่ายไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพไปสู่ผู้ใช้ โดยอาศัยความชำนาญกว่า 25 ปีของ บี.กริม เพาเวอร์ในการสร้างและควบคุมระบบการส่งและระบบการจำหน่ายไฟฟ้าในนิคมอุตสาหกรรม 9 แห่งทั้งในประเทศไทย เวียดนาม และกัมพูชา นำไปสู่การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญในการเป็น Smart City ต่อไปในอนาคต

ยุทธศาสตร์ที่ 6 ให้บริการพลังงานที่มีคุณภาพและเสถียรภาพผ่านการซื้อขายในระบบ energy trading โดยเป็นการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ลูกค้าโดยตรง ไม่ผ่านระบบของการไฟฟ้า ซึ่งอาศัยโครงข่ายอัจฉริยะ (Smart Grid) ที่พัฒนาโดย บี.กริม เพาเวอร์ ปัจจุบันบริษัทได้นำร่องทดสอบระบบ trading ระหว่างอาคารต่างๆ ในเครือ บี.กริม และในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ แล้ว เนื่องจากทิศทางธุรกิจพลังงานจากนี้ไปโรงไฟฟ้าจะมีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ อนาคตคนจะมีโรงไฟฟ้าในบ้าน มีการติดแผงโซลาร์บนหลังคาผลิตไฟฟ้าขายเพื่อนบ้านแบบ Peer to Peer ที่แลกเปลี่ยนกันได้โดยตรง

ยุทธศาสตร์ที่ 7 เดินหน้าพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับ “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน” ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ และการขับเคลื่อนด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่


นายฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวต่อไปว่า ภายใต้ยุทธศาสตร์ 7 ประการจะควบคู่ไปกับจุดแข็ง 5 ข้อของ BGRIM คือ 1. ความสามารถในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ 2. การเป็นพันธมิตรที่ดีและได้รับความไว้วางใจ 3. ความสามารถในการพัฒนาและบริหารโครงการ 4. การจัดหาแหล่งเงินทุนเพื่อรองรับการเติบโตด้วยต้นทุนที่เหมาะสม และ 5. ความพร้อมทางด้าน “ดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชัน” เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาว ด้วยเป้าหมายก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก โดย บี.กริม เพาเวอร์ มีเป้าหมายก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี 2593

นอกจากนี้ บริษัทได้รับใบอนุญาตในการจัดหาและจำหน่าย LNG จาก กกพ.จำนวน 1.2 ล้านตัน/ปี โดยคาดว่าจะนำเข้า LNG ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เพื่อป้อนโรงไฟฟ้าในเครือฯ รวมทั้งมองโอกาสในการส่งออกไปยังประเทศเพื่อนบ้านสอดรับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งให้ไทยเป็น LNG Hub ในภูมิภาคนี้


กำลังโหลดความคิดเห็น