xs
xsm
sm
md
lg

“ศักดิ์สยาม” พบ JETRO หนุนไทยใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเร่งแผนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธาน JETRO -หอการค้าญี่ปุ่น พบ”ศักดิ์สยาม”หารือแผนพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในกทม. หนุนใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า ยันขับเคลื่อนแผนสู่การปฎิบัติ สร้างเชื่อมั่นการลงทุนในไทย

นายศักดิ์สยามชิดชอบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังให้นายทาเคทานิอัทสึชิ ( Mr. Taketani Atsushi) ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น(Japan External Trade Organization: JETRO Bangkok)และนายฮิดากะคาซึโอะ (Mr. Hidaka Kazuo ) ประธานหอการค้าญี่ปุ่น -กรุงเทพฯ (JCC)พร้อมคณะเข้าพบว่าได้มีการหารือถึงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของกระทรวงคมนาคม ซึ่งกระทรวงฯได้สรุปภาพรวมการดำเนินการต่อข้อเรียกร้อง ของภาคเอกชนญี่ปุ่นตามข้อสั่งการของพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีที่ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพัฒนามาตรการต่างๆตามข้อเสนอแนะของภาคเอกชนญี่ปุ่นให้มีผลเป็นรูปธรรมเพื่อสร้างความเชื่อมั่นและรักษาฐานการลงทุนของเอกชนญี่ปุ่นในประเทศไทย

ทั้งนี้ JETRO Bangkok ให้ความสนใจการดำเนินการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในพื้นที่กรุงเทพฯ การผลักดันการใช้เทคโนโลยียานยนต์ไฟฟ้า การเตรียมความพร้อมด้านคมนาคมเพื่อรองรับการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มาตรการการรองรับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 และภาพรวมการขับเคลื่อนนโยบายคมนาคมสู่การปฏิบัติในปี 2564

ซึ่งกระทรวงคมนาคมได้สานต่อนโยบายเดิมจากปี 2563 มาสู่การปฏิบัติได้อย่างเป็นรูปธรรม และได้วางแผนการขับเคลื่อนนโยบายเพิ่มเติมปี 2564 เพื่อให้เดินหน้าการพัฒนาระบบคมนาคมเชิงรุก และวางรากฐานการพัฒนาสู่อนาคต

สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว หรือ Phuket Sandbox กระทรวงคมนาคมได้เตรียมความพร้อมครอบคลุมการคมนาคมขนส่งทั้ง 3 มิติ คือ ทางอากาศ ทางบก และทางน้ำ โดยจะดำเนินการตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งมาตรฐานด้านความปลอดภัยในการรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทยนั้น จะต้องเป็นการเดินทางเข้ามาแบบเที่ยวบินตรงมาที่ท่าอากาศยานภูเก็ตเท่านั้น และผู้เดินทางจะต้องปฏิบัติตามมาตรการที่รัฐบาลกำหนด เพื่อสร้างความมั่นใจและความปลอดภัยตลอดระยะเวลาในการเดินทาง

และรัฐบาลได้มีการเตรียมความพร้อมในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ ไว้แล้ว รวมถึงให้ความสำคัญกับการฉีดวัคซีนให้ประชาชนในพื้นที่ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการแล้วประมาณ 70% คาดว่าจะดำเนินการครบ 100% ได้ภายในเวลา 120 วัน


กำลังโหลดความคิดเห็น