บอร์ดราช กรุ๊ปอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนจาก 14,500 ล้านบาท เป็น 22,192.30ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวน 769,230,770 หุ้น เสนอขายให้กับผู้ถือหุ้นเดิมในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่ คาดว่ามูลค่าการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนรวม 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการต่างๆของบริษัททั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่อินโดนีเซีย
นายกิจจา ศรีพัฑฒางกุระ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ราช กรุ๊ป (RATCH) เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 6/2564 มีมติเห็นชอบให้นำเสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจาก 14,500,000,000 บาท เป็น 22,192,307,700 บาท โดยการออกหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวน 769,230,770 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 10 บาท จัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่จัดสรรให้ผู้ถือหุ้นที่จะทำให้บริษัทฯมีหน้าที่ตามกฎหมายต่างประเทศ (Preferential Public Offering:PPO) อัตราส่วนไม่ต่ำกว่า 1.885 หุ้นต่อ 1 หุ้นสามัญที่ออกใหม่
สำหรับราคาเสนอขายหุ้น PPO ให้คำนวณจากราคาถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักของหุ้นของบริษัทในช่วงเวลาตั้งแต่ 7-15 วันที่มีการซื้อขายติดต่อกันก่อนวันกำหนดราคาเสนอขายหุ้น PPO หักด้วยส่วนลดจำนวนไม่เกิน 25% ของราคาตลาด ส่วนวันจองซื้อและชำระเงินค่าหุ้น บริษัทจะกำหนดในภายหลัง โดยบริษัทจะประกาศราคาเสนอขายหุ้น PPO พร้อมทั้งอัตราส่วนการเสนอขายสำหรับการเสนอขายหุ้น PPO ก่อนวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน (Record Date) ภายในเดือน ธ.ค.64-ก.พ.65
ทั้งนี้ บริษัทสงวนสิทธิที่จะไม่เสนอขายหรือจัดสรรหุ้นสามัญที่ออกใหม่ในการเสนอขายหุ้น PPO ให้แก่ผู้ถือหุ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ประเทศแคนาดา ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน ประเทศแอฟริกาใต้ และประเทศอื่นตามที่บริษัทพิจารณาเห็นสมควร
อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่าจะมีมูลค่าการเสนอขายหุ้น PPO รวมทั้งสิ้นประมาณ 30,000 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนในโครงการต่างๆของบริษัททั้งในและต่างประเทศ ทั้งที่มีอยู่แล้วในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าในสาธารณรัฐอินโดนีเซีย การชำระหนี้ของบริษัท และเพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานทั่วไป รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของบริษัท
บริษัทคาดว่าจะสามารถดำเนินการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น รวมทั้งได้รับเงินจากการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าวภายในไม่เกินเดือน มี.ค.65
ทั้งนี้ บอร์ดราช กรุ๊ปได้อนุมัติให้บริษัทอาร์เอช อินเตอร์เนชั่นแนล (สิงคโปร์) คอร์ปอเรชั่น จำกัดซึ่งเป็นบริษัทย่อยทางอ้อม ได้ลงนามสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของกลุ่มบริษัทที่ดำเนินกิจการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนโดยใช้ถ่านหินเป็นเชื้อเพลิงขนาดกำลังการผลิต 2,045 เมกกะวัตต์ตั้งอยู่ที่Paiton Power Generation Complex ซึ่งมีความสำคัญต่อยุทธศาสตร์ด้านพลังงานของประเทศและมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าสาธารณรัฐอินโดนีเซีย (PLN)คงเหลืออีก 21 ปี
การลงทุนดังกล่าวทำให้ เป็นผู้ถือหุ้นร้อยละ 45.515 ในกิจการโรงไฟฟ้าและร้อยละ 65 ในธุรกิจเดินเครื่องและบำรุงรักษาโรงไฟฟ้าดังกล่าวซึ่งสอดคล้องกับแผนการลงทุนของกลุ่มบริษัทในการขยายการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจเกี่ยวเนื่องในอนาคตคาดว่าการลงทุนดังกล่าวจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์ภายในเดือนมีนาคม 2565