บี.กริม เพาเวอร์ ลั่นไตรมาส 2/64 ยอดการใช้ไฟโรงงานอุตสาหกรรมโตเพิ่มขึ้น 10-15% แย้มครึ่งหลังปี 64 มีโครงการลงทุนโรงไ้ฟฟ้าใหม่เพิ่ม 1 พันเมกะวัตต์ทั้งใน และต่างประเทศ
นายฮาราลด์ ลิงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIM) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2564 ยังเติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อเนื่องจากไตรมาสก่อน แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอกสาม โดยความต้องการใช้ไฟฟ้าของลูกค้าโรงงานอุตสาหกรรมได้เพิ่มขึ้น 10-15% คาดว่าปีนี้จะมีลูกค้าใหม่เข้ามาเพิ่มไม่ต่ำกว่า 40 เมกะวัตต์ รวมทั้งรับรู้รายได้เต็มปีจากโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่กัมพูชาที่จ่ายไฟแล้วเมื่อปลายปี 2563
ขณะเดียวกัน บริษัทจะมีโครงการใหม่ที่จะจ่ายไฟเชิงพาณิชย์ (COD) ในครึ่งปีหลังนี้จำนวน 2 โครงการ คือ โครงการโรงไฟฟ้าบ่อทอง วินด์ฟาร์ม 1&2 ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 16 เมกะวัตต์ ในจังหวัดมุกดาหาร คาด COD ในเดือนกรกฎาคมนี้ และโครงการโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแบบไฮบริดควบคู่กับโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 95 เมกะวัตต์ที่สนามบินอู่ตะเภา โดยเฟสแรกจะผลิตไฟฟ้า 15 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปลายปีนี้
ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีนี้อีก 1 พันเมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าที่บริษัทร่วมกับพันธมิตรที่ลงทุนเองตั้งแต่แรก (green field) และการเข้าซื้อกิจการ (M&A) ทั้งในและต่างประเทศ เช่น โครงการโรงไฟฟ้าพลังลมที่เกาหลีใต้จำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 170 เมกะวัตต์ คาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลังนี้
ส่วนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานก๊าซธรรมชาติ (Gas to Power) ที่ประเทศเวียดนาม มี 2-3 โครงการ คาดว่าในครึ่งหลังปี 2564 จะมีความชัดเจน 1 โครงการที่ได้บรรจุอยู่ในมาสเตอร์แพลนอยู่ระหว่างรอสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA )โดยเฟสแรกจะลงทุนประมาณ 1.2 พันเมกะวัตต์ ส่วนโครงการ Gas to Power ที่ลงนามสัญญากับบริษัทปิโตรเวียดนามนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้โครงการ รวมทั้งบริษัทมีแผนลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังลมขนาด 200 เมกะวัตต์ที่เวียดนามด้วย
นอกจากนี้ บริษัทเตรียมเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซฯ เป็นเชื้อเพลิงราว 2-3 โครงการในไทย กำลังผลิตรวม 600-700 เมกะวัตต์ โดยมีหนึ่งโครงการที่มีความคืบหน้าไปมาก คาดว่าจะได้ข้อสรุปในครึ่งปีหลังนี้ เช่นเดียวกับการเข้าซื้อกิจการโรงไฟฟ้าในมาเลเซีย ขนาดกำลังการผลิต 200-250 เมกะวัตต์ และมีส่วนขยายอีก 150 เมกะวัตต์ก็จะชัดเจนในครึ่งหลังปี 2564
ทั้งนี้ บริษัทตั้งงบลงทุนในปีนี้ราว 1.7 หมื่นล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีเงินสดในมือราว 2 หมื่นล้านบาท และมีแผนจะออกหุ้นกู้ประมาณ 1 หมื่นล้านบาทในช่วง 1-2 เดือนนี้ แบ่งเป็นหุ้นกู้ 8 พันล้านบาทและกรีนชูอีก 2 พันล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนและรีไฟแนนซ์หนี้ที่ครบกำหนดชำระ