“สหไทย เทอร์มินอล” คงเป้ารายได้ปี 64 โตขึ้น 15% แม้ว่าไตรมาสแรกปีนี้มีรายได้ลดลง 4.5% แต่มั่นใจครึ่งปีหลังดีขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย หนุนการส่งออกฟื้น
นายวรวิทย์ เอื้อทรัพย์สกุล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน บริษัท สหไทย เทอร์มิเนอร์ จำกัด (มหาชน) (PORT) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ยังคงเป้าหมายรายได้ในปี 2564 เติบโตขึ้น 15% จากปีก่อนอยู่ที่ 1,359.94 ล้านบาท แม้ว่าไตรมาสแรกปีนี้บริษัทมีรายได้จากการให้บริการ 325 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน 4.5% แต่เชื่อว่าสถานการณ์ครึ่งปีหลังนี้ธุรกิจเดินเรือและท่าเทียบเรือจะดีขึ้น หลังจากหลายประเทศมีการฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึงทำให้แนวโน้มการส่งออกฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งคลังสินค้าทัณฑ์บนทั่วไป โดยเปิดให้บริการคลังสินค้าในรูปแบบห้องเย็นพื้นที่ประมาณ 1,500 ตารางเมตร จากพื้นที่ทั้งหมด 12,000 ตารางเมตร สำหรับกลุ่มลูกค้าประเภทสินค้าเครื่องดื่มแล้ว
ส่วนภาวะตู้คอนเทนเนอร์สินค้าขาดแคลนยังเป็นปัจจัยกดดันต่อเนื่องจากปลายปีที่แล้ว ทำให้อัตราค่าระวางเรือปรับตัวสูงขึ้นจนส่งผลกระทบต่อการส่งออกสินค้า แต่บริษัทฯ ยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถเติบโต 15% จากการขยายธุรกิจที่ต่อเนื่องจากกิจกรรมท่าเรือ เพื่อดึงจุดแข็งของ PORT ที่เป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์แบบครบวงจร ที่ตรงความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง
นายวรวิทย์กล่าวว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าโครงการใหม่ทั้ง 2 โครงการแม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดโควิด-19 ได้แก่ โครงการศูนย์กระจายสินค้าบนพื้นที่กว่า 40 ไร่ คาดว่าจะเปิดดำเนินการในต้นปี 2565 โดยจะเปิดในเขตพื้นที่ขอบเมืองกรุงเทพมหานคร ผ่านบริษัท บริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค จำกัด (Bangkok Logistics Park) ซึ่ง PORT ร่วมทุนกับกลุ่มเฟรเซอร์สฯ ผู้นำการให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรมไทย และโครงการท่าเรือแห่งใหม่แห่งที่ 3 ของบริษัท บางกอก ริเวอร์ เทอมินอล จำกัด (Bangkok River Terminal : BRT) ซึ่ง PORT ร่วมลงทุนกับบริษัท APM Terminals จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ A.P.Moller-Maersk สายเรืออันดับหนึ่งของโลก และกับกลุ่มน้ำตาลมิตรผลเพื่อรองรับการขยายตัวในอนาคต ขณะนี้โครงการดังกล่าวอยู่ระหว่างการยื่นรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม (EIA) คาดว่าจะได้รับอนุมัติในเร็วๆ นี้ หลังจากนั้นจะดำเนินการก่อสร้างคาดว่าจะแล้วเสร็จกลางในปี 2565
สำหรับงบลงทุนในปีนี้ บริษัทตั้งไว้ 211 ล้านบาท เพื่อใช้ลงทุนโครงการท่าเรือแห่งใหม่ BRT ราว 93 ล้านบาท การซ่อมบำรุงท่าเทียบเรือปกติ 46 ล้านบาท และที่เหลือใช้ลงทุนโครงการอื่นๆ
