บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ มุ่งมั่นสร้างความมั่นคงทางอาหาร ส่งมอบอาหารคุณภาพดี สะอาด ปลอดภัยสู่ผู้บริโภค เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารด้วยการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีชั้นสูงขับเคลื่อนกระบวนการผลิต เน้นโภชนาการและสุขภาพที่ดี ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารของประชากรโลกในทุกสถานการณ์ ร่วมสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม รองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของอุตสาหกรรมอาหารตามวิถีปกติใหม่ (New Normal)
นายวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ซีพีเอฟ ในฐานะผู้นำธุรกิจเกษตรอุตสาหกรรมและอาหารครบวงจร ให้ความสำคัญต่อการผลิตอาหารปลอดภัยเพื่อผู้บริโภค โดยได้กำหนดกลยุทธ์การบริโภคอย่างยั่งยืน (Sustainable Diet) ปี 2030 ด้วยการสรรหาวัตถุดิบที่ปลอดภัยและมีคุณค่าทางโภชนาการ สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ตลอดห่วงโซ่อาหารอย่างเป็นระบบ วัตถุดิบต้องมาจากแหล่งผลิตที่ถูกต้องตามมาตรฐานสากล ดำเนินงานตามหลักสวัสดิภาพสัตว์ที่ดี รวมไปถึงการพัฒนานวัตกรรมอาหาร เพื่อเป็นทางเลือกและรองรับพฤติกรรมการบริโภคในอนาคต อาทิ นวัตกรรมเนื้อจากพืช (Plant-based Protein) พร้อมกันนี้ บริษัทฯ มีส่วนร่วมสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นต้นทางวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอาหารปลอดภัย และยังพัฒนาคู่ค้าของบริษัทให้ดำเนินงานตามมาตรฐานแรงงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนำไปสู่การสร้างความมั่นคงทางอาหารเพื่อประชากรของโลก
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 บริษัทฯ ยกระดับมาตรการความปลอดภัยในกระบวนการผลิตและสุขอนามัยส่วนบุคคลสู่ระดับสูงสุด ตลอดห่วงโซ่การผลิตตั้งแต่ธุรกิจอาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ โรงงานแปรรูปและผลิตอาหารสำเร็จรูป ส่งเสริมการเข้าถึงอาหารอย่างเพียงพอในภาวะวิกฤต เพื่อเป็นหลักประกันความปลอดภัยสำหรับคนไทยและผู้บริโภคทั่วโลก ซึ่งตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 บริษัทฯ ยังได้ส่งมอบอาหารปลอดภัยเพื่อสนับสนุนการปฏิบัติหน้าที่ของบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลต่างๆ โรงพยาบาลสนาม และส่งอาหารเพื่อดูแลและช่วยเหลือกลุ่มต่างๆ เช่น ชุมชน กลุ่มเปราะบาง แรงงานต่างชาติ เป็นต้น
“การระบาดของโควิด-19 กระตุ้นให้ผู้บริโภคหันมาใส่ใจเรื่องการบริโภคอย่างยั่งยืน เน้นสวัสดิภาพสัตว์ แหล่งที่มาของวัตถุดิบที่นำมาปรุงเป็นอาหารต้องตรวจสอบย้อนกลับได้ ไม่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนเพิ่มทางเลือกเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคที่ปรับพฤติกรรมหันมาให้ความสำคัญต่อเรื่องของความสะอาดและสุขอนามัยมากขึ้น รวมถึงมีส่วนร่วมในการสร้างสมดุลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของอุตสาหกรรมอาหารที่ต้องเร่งปรับตัวตอบโจทย์วิถีปกติใหม่ให้ทันท่วงที” นายวุฒิชัยกล่าว
นายวุฒิชัยกล่าวเพิ่มเติมว่า ในโอกาสวันความปลอดภัยอาหารโลก (World Food Safety Day) วันที่ 7 มิถุนายนของทุกปี ซึ่งปีนี้มีการจัดกิจกรรมภายใต้แนวคิด “อาหารที่ปลอดภัยในวันนี้ เพื่อสุขภาพดีในวันข้างหน้า” (Safe Food Now for a Healthy Tomorrow) ให้ความสำคัญต่อการผลิตและการบริโภคอาหารที่ปลอดภัย เพื่อประชากรโลก สิ่งแวดล้อม และเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งในส่วนของซีพีเอฟ เดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร ด้วยการนำระบบดิจิทัล ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีที่ทันสมัย มาใช้ในกระบวนการผลิตเพื่อไปสู่เป้าหมายการบริโภคอย่างยั่งยืน สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค
“ซีพีเอฟ ไม่เคยหยุดนิ่งเพื่อพัฒนาและคิดค้นนวัตกรรมในกระบวนการผลิตอาหารอย่างรอบด้าน ตั้งแต่ฟาร์มสู่โต๊ะอาหาร เพื่อรองรับวิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา รวมทั้งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีกว่าจะช่วยตอบโจทย์ความต้องการอาหารที่ปลอดภัยของมนุษย์ และยังเป็นการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้แก่ผู้บริโภคทั่วโลกด้วย” นายวุฒิชัยกล่าว