อิตาเลียนไทยเร่งฟื้นฟูแคมป์หลักสี่ วางมาตรการเข้ม 7 ข้อ จัดแยกพื้นที่ แยกกลุ่มพนักงาน ห้ามบุคคลภายนอกเข้าแคมป์เด็ดขาด พร้อมทำความสะอาดฆ่าเชื้อสถานที่ ย้ำพร้อมร่วมมือกับภาครัฐและสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
รายงานข่าวจากบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) หรือ ITD เปิดเผยว่า จากที่มีการแพร่ระบาดเชื้อโรคไวรัสโควิด-19 ที่แคมป์พักพนักงานหลักสี่ ซึ่งมีแรงงานพักอยู่ในแคมป์ทั้งหมด 1,667 คน ผลการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 พบพนักงานและแรงงานติดเชื้อ 1,100 คน เป็นคนไทย 363 คน และเป็นแรงงานต่างด้าว 737 คน ไม่พบเชื้อ 567 คน ผู้ติดเชื้อทั้งหมดได้รับการส่งออกไปรักษาแล้วทั้งหมด ส่วนแรงงานต่างด้าวของบริษัทเป็นแรงงานที่เข้ามาทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ดังนั้นเวลาเจ็บป่วยการส่งตัวเข้ารับการรักษา ทางภาครัฐ ในส่วนประกันสังคม กระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข ประสานงานและดำเนินการอย่างเป็นระบบ ทั้งแรงงานไทย และแรงงานต่างด้าว ทำให้ขั้นตอนในการส่งตัวเข้ารับการรักษาที่ รพ.สนามและโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้อง Hospitel เป็นไปอย่างรวดเร็ว ส่วนผู้ป่วยที่รักษาหายแล้วทยอยกลับมาที่แคมป์ถึงวันที่ 24 พฤษภาคม 2564 เป็นจำนวน 49 คน
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแนวทางมาตรการฟื้นฟู แคมป์พักพนักงานหลักสี่ ดังนี้
1. ควบคุมการเข้า-ออก โดยห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้าแคมป์พักพนักงานโดยเด็ดขาด
2. แบ่งพื้นที่แคมป์พักพนักงาน โดยจัดเป็นโซนบ้านพัก โซนกักตัวผู้สัมผัสเสี่ยงสูง และโซนผู้ป่วยติดเชื้อรอการส่งตัวไปสถานพยาบาล
3. ทำความสะอาดห้องพัก และให้เปิดหน้าต่าง เพื่อให้มีการระบายอากาศ ส่วนบริเวณพื้นที่ส่วนกลางจัดให้มีการทำความสะอาด และตรวจสอบเพื่อไม่ให้มีน้ำเสียท่วมขัง
4. ไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกัน และแยกของใช้ส่วนตัวโดยเฉพาะแก้วน้ำ
5. ดูแลความสะอาดห้องน้ำ ห้องส้วม ต้องมีการทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมหลังการใช้ทุกครั้ง
6. ปรับปรุงอ่างอาบน้ำรวม เดิมเป็นระบบเปิดแบบตักอาบ ให้เป็นระบบปิดโดยทำผนังกั้นขอบอ่างไม่ให้มีสิ่งเจือปนเข้าไปในอ่างได้ และจัดเตรียมฝักบัวอาบน้ำเป็นจุดๆ โดยไม่มีการตักอาบ
7. จัดรถรับ-ส่งโดยจำกัดจำนวนคนในรถไม่ให้แออัด และต้องใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอด ไม่ให้มีการแวะระหว่างทาง พนักงานขับรถต้องทำความสะอาดรถก่อนและหลังการใช้รถด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อทุกครั้ง
ส่วนในด้านการตรวจสอบแคมป์ ทางบริษัทฯ ยินดีให้ความร่วมมือ และพร้อมดำเนินการปฏิบัติตามมาตรการของทุกภาคส่วนอย่างเคร่งครัด รวมทั้งสนับสนุนกระบวนการตรวจเช็กทั้งจากทางภาครัฐกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงแรงงาน โดยจะนำเอามาตรการและคำสั่งต่างๆ มาปรับปรุง เพื่อป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ต้องขอขอบพระคุณทุกภาคส่วน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน บุคลากรทางการแพทย์ทุกท่าน และความห่วงใยจากทุกภาคส่วนที่ร่วมแบ่งปันข้าวกล่อง สิ่งของอุปโภค บริโภค ฯลฯ ที่หลั่งไหลมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ ขอให้ความมั่นใจว่าบริษัทฯ จะปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 อย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนให้ผ่านพ้นวิกฤตนี้ไปได้อย่างรวดเร็ว และดีที่สุด